วันนีทางเรา หนังdiseny ขอแนะนำภาพยนต์จากค่ายดิสนีย์ เรื่อง Alice Through the Looking Glass อลิซ ผจญภัยมหัศจรรย์เมืองกระจก (อลิซในแดนมหัศจรรย์ 2) เป็นหนังแนวแอ็กชั่น – ผจญภัยแฟนตาซี ที่กำกับโดยเจมส์ โบบิน ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนและนิทานของดิสนีย์ นำมาสร้างเป็นภาพยนต์กึ่งแอนิเมชั่น สามารถของดูได้แล้วแบบเต็มเรื่่อง พากย์ไทย หรือ่านรีวิวของเราได้ที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ
เรื่องราวความสนุกของเรื่อง Alice Through the Looking Glass
หนังเล่าถึง อลิซ ที่หลังจากกลับมายังโลกของตัวเองในภาคแรก เธอไล่ตามความฝันสานต่อการเป็นกัปตันเรือหญิงให้กับเรือนามวันเดอร์ของพ่อเธอ ออกเดินทางข้ามโลกไปสำรวจดินแดนที่ยังไม่มีใครเคยไป หนังเปิดตัวด้วยฉากการหนีตายจากโจรสลัดท่ามกลางพายุคลั่งและหินโสโครกได้อย่างสนุกมากๆ ก่อนจะเปิดปูมปัญหาของอลิซครั้งใหม่ เมื่อเธอกลับขึ้นฝั่งและพบบ้านของแม่เธอและเรือวันเดอร์ที่น่าภาคภูมิใจของพ่อกำลังจะโดนยึดจาก เฮมิช ลูกเศรษฐีสุดสปอยล์ที่เธอเคยหักหน้าปฏิเสธการแต่งงานในที่สาธารณะในภาคก่อน ซึ่งบัดนี้ได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านแอกคอร์ทเจ้าหนี้คนสำคัญของเธอแล้ว
ในระหว่างที่ความฝันกำลังพังลงเมื่อพบโลกความจริง เธอก็ถูกชักนำสู่ดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้งเพื่อช่วยเหลือ แฮทเทอร์ ซึ่งหลบหน้าผู้คนเพราะไม่มีใครเชื่อที่เขาพูดว่าครอบครัวของเขายังคงมีชีวิตอยู่ ถ้าใครจำได้ในภาคแรกแฮทเทอร์เคยเล่าว่าครอบครัวเขาถูกเจ้ามังกร แจ๊บเบอร์ว๊อคกี้ ของราชินีโพแดงหรือราชินีแดงในภาคนี้สังหารเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นเรื่องที่แฮทเทอร์พูดในคราวนี้จึงยากจะเชื่ออย่างมาก
แม้แต่ตัวอลิซที่เป็นเพื่อนสนิทของแฮทเทอร์เองก็ตาม อลิซที่เคยมีคติว่าทุกอย่างเป็นไปได้เสมอเมื่อเพิ่งเจอกับเรื่องที่บ้านก็เริ่มเปลี่ยนความคิด แฮทเทอร์เสียใจที่ไม่มีใครเชื่อและค่อยๆล้มป่วยลงจนอาจจะตายได้ ราชินีขาวมิรานา จึงเสนอแผนสุดท้าทายออกมาว่า ให้อลิซไปขโมยแก่นเวลาของ ไทม์ ที่คอยดูแลกาลเวลาต่างๆมาเพื่อย้อนเวลาไปช่วยเหลือครอบครัวของแฮทเทอร์ก่อนจะถูกมังกรฆ่าตาย และที่ปราสาทนั้นเองอลิซก็ต้องเผชิญทั้งลูกน้องของไทม์ และศัตรูคู่แค้นอย่าง ราชินีแดงไอราเซเบ็ธ ผู้เป็นพี่ของราชินีขาวนั้นเอง
พล็อตโดยรวม และการดำเนินเรื่อง อลิซในแดนมหัศจรรย์ 2
เนื้อเรื่อง อลิซในดินแดนพิศวง ภาค2 พากย์ไทย โดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับอิทธิพลจากผลงานเรื่อง Through the Look-Glass และ What Alice Found There ของชาร์ลส์ ลุทวิดจ์ ดอดจ์สัน ซึ่งเป็นภาคต่อของอลิซในแดนมหัศจรรย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำสไตล์ความเป็นผู้นำของอลิซมาใช้ สิ่งนี้ปลูกฝังเมื่อสามปีก่อนจากวันเดอร์แลนด์ ความบาดหมางระหว่างแฮทเทอร์และครอบครัวของเขา รวมถึงพี่สาวสองคน ราชินีขาวและราชินีแดง ก่อนที่อลิซจะกลายเป็นบุคคลที่สามในปัญหาของแมด ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ยังมาจากตัวละครในภาคก่อนๆ ที่เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาของตนเองผ่านปัญหาของผู้อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันซึ่งถือว่าเชื่อมโยงกับเรื่องราว
บทถือว่าโค้งมนและคิดมาอย่างดี โดยสามารถคลายเงื่อนที่ไร้เหตุผลได้ทุกประเภท รวมถึงชิ้นส่วนเก่า ๆ ด้วย ทำไมราชินีโพแดงถึงหัวโต และทำไมเธอถึงชอบสั่งให้คนตัดหัว? ทำไมคุณถึงรังเกียจ White Queen และ Hatter? ทำไมคนทำหมวกถึงทำหมวกแปลกๆ แบบนี้? ราชินีขาวและราชินีแดงคืนดีกันได้อย่างไร? ฉันจะช่วยครอบครัวแฮทเทอร์ได้อย่างไร? เราแก้ไขอดีตได้ไหม? เวลาคืออะไร เราควรจัดการกับเวลาและอุปสรรคอย่างไร? สิ่งนี้สะท้อนปมในใจของอลิซความเชื่อที่พังทลายลงหมดสิ้นในทุกส่วน จะขำก็ได้ ลุ้นก็ได้ ลุ้นก็ได้ ซึ้งก็ได้ อิ่มตา อิ่มใจ พอใจได้คิดได้ เครดิตของฉันคือสคริปต์เล่นกับคำว่าเวลาซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครเอกในภาคนี้
จุดเริ่มต้นของเรื่องค่อนข้างราบรื่น แต่ก็ถือว่าปูทางไปสู่หัวใจของเรื่องในครึ่งหลังได้ดีทีเดียว ส่งผลให้ครึ่งหลังของเรื่องมีสีสันและสนุกสนาน อลิซเองก็ได้เรียนรู้ว่าความเชื่อของเธอนั้นไม่จริงเสมอไป เช่น ความเชื่อของเธอที่ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่เธอพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่เธอทำไม่ได้ นั่นคือการแก้ไขอดีต แต่ในขณะเดียวกันความเชื่อของเธอในเรื่องนี้ก็สามารถปลอบโยนผู้อื่นให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ เพราะเธอเคยเลี้ยงแมดและทำให้ฮาร์ทกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
งานภาพยังคงสวยงามตรึงใจ
นางเอกของเรื่องอย่าง อลิซ ที่รับบทบาทโดย Mia Wasikowska ยังคงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ทุกคนยังอยู่กับเรื่องราวในหนัง ขณะที่เรื่องราวอาจจะดูไม่ดาร์กเท่าภาค ‘Alice in Wonderland’ นัก แต่สิ่งที่ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนก็คงเป็นงานภาพและคอมพิวเตอร์กราฟิกอันสวยสด
ความแตกต่างของภาคแรกและภาค 2
อลิซในดินแดน มหัศจรรย์ ไม่เหมือนหนังภาคแรก ทิม เบอร์ตันไม่ได้กำกับอีกต่อไป โทนของเรื่องส่วนใหญ่เป็นเทพนิยาย ความแตกต่างจากการออกแบบโลกแดนสวรรค์ภาคแรกคือมันหลุดโลกและมืดๆ โหดๆ หน่อย แต่ภาคนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า? แต่ดูเหมือนว่าทีมงานจะใช้ฉากไคลแมกซ์จากเรื่อง Alice: Madness Returns ของ EA เพราะโทนของฉากรวมถึงที่ตั้งของปราสาท Queen of Hearts ซึ่งคล้ายกับเกมมากซึ่งยังคงทำให้โลกของ Wonderland ดูไม่เหมือนโลกนี้ แต่ก็ไม่ได้โหดเท่าเกมนั้น
ถ้าให้เล่าเรื่องตรงๆ อาจดูไม่แตกต่างจากภาพยนตร์ผจญภัยของดิสนีย์ แต่สิ่งที่เราเห็นแน่นอนคือภูมิหลังของตัวละครหลัก และในภาพยนตร์ภาคแรก เราอาจไม่รู้เกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครมากนัก แต่ในตอนนี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขามากขึ้น และตกหลุมรักพวกเขามากขึ้นและเรื่องราวที่ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ดังนั้นในภาคสองจึงเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ Wonderland ที่เต็มไปด้วยปรากฏการณ์ ธีมการผจญภัยเหนือจินตนาการและความสมบูรณ์แบบ
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ธีมพล็อตหลักของหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างกับหนังเรื่องอื่นที่ใช้ธีมเรื่อง “เวลา” มาเกี่ยวข้องเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเทียบกับหนังครอบครัวอย่าง SPY KIDS 4 ที่มีเรื่องเวลาเหมือนกันแล้ว เรื่องนี้เขียนบทดีกว่า ที่สำคัญคือ นักแสดงมาครบทีม ซึ่งทำให้เราเข้าถึงตัวละครทุกตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะถ้าคุณดูภาคแรกมาก่อนและจดจำพวกเขาได้ อย่างที่บอกว่า เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้แตกต่างจากหนังแนวเดียวกันมาก แต่มันจะทำให้เรารู้จักตัวละครในเรื่องมากขึ้นครับ
โดยรวม บทวิเคราะห์ Alice Through the Looking Glass
ภาพรวมของ alice through the looking glass 2 พากย์ไทย นับว่าเป็นหนังภาคต่อที่ดูได้เพลิน ๆ ไม้เด็ดส่วนใหญ่อยู่ในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ทั้งในแง่ภาพ แสง สี เสียง ตลอดจนวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ต่าง ๆ นานา และเมื่อหากพิจารณาในแง่ข้อคิดของเรื่อง จะพบว่ามีอยู่ 2 ประเด็นหลัก ๆ ที่แฝงอยู่ คือ
- เรื่องการยอมรับ-ทำความเข้าใจระหว่างคนในครอบครัว
- เรื่องที่ว่าคนเราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ เพราะฉะนั้น เมื่อในวันนี้ยังมี “เวลา” ก็ควรทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
บทวิเคราะห์ : เมื่อฉันเริ่มดูตัวอย่างครั้งแรก ฉันกำลังชั่งใจว่าจะดูดีหรือไม่ เพราะหนังภาคแรกงงมาก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลองดู ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาต้องการโฟกัสไปที่งานของจอห์นนี่ เดปป์ ระหว่างรอภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean ภาคต่อไป ซึ่งพี่ชายก็แสดงได้ค่อนข้างดี ยังมีกระตุกอีกเช่นเคย เนื่องจากภาพยนตร์สร้างโดย Walt Disney เนื้อหาจึงได้รับการออกแบบมาให้สนุกสนานและให้ความรู้แก่เด็กๆ สำหรับเราหนังวางพล็อตได้ดีมาก แม้ว่าในตอนแรกเหตุการณ์จะดูวุ่นวายเล็กน้อย
แต่สุดท้ายเรื่องราวก็คลี่คลาย นอกจากนี้ยังช่วยสอนเด็ก ๆ ด้วยความกล้าหาญของอลิซและการให้อภัยของราชินีโพแดง คงเป็นเรื่องเล็กน้อยที่จะยอมรับผิดในสิ่งที่พวกเขาทำ สิ่งนี้สามารถกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน สิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากที่สุดน่าจะเป็นการจัดเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของคนดังโดยเฉพาะตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะอลิซ งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับแผนกเครื่องแต่งกาย สามารถสร้างเสื้อผ้าที่แปลก แหวกแนว แตกต่างได้ เหมาะกับโลกในจินตนาการอีกโลกหนึ่ง นอกจากนี้ เพลงประกอบของรายการยังปลุกอารมณ์ได้ดีทีเดียว แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบต้องยกให้ฝ่ายกราฟิกและสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ทำออกมาได้อย่างลื่นไหลและน่าดึงดูด ดูมีเสน่ห์ ชวนให้อยากดูต่ออีกสักวินาทีสองวินาที
สรุปหลังชมภาพยนต์ อลิซในแดนมหัศจรรย์ 2
แม้หนังจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรตอนฉายที่อเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อาจจะด้วยหลายปัจจัยทั้งข่าวฉาวการหย่าร้างระหว่างจอห์นนี่ เด็ปป์กับภรรยา ทั้งการฉายชนกับหนังใหญ่อย่าง เอ็กเมน อะพอคาลิปส์ หรือตัวหนังเองที่ไม่ถูกใจนักวิจารณ์หลายสำนักเท่าใด โดยเฉพาะประเด็นเปรียบเทียบกับฉบับหนังสือที่คลาสสิคไปแล้วนั่นเอง
ฉันยอมรับว่าเมื่อฉันเห็นวิกฤตและความล้มเหลวทางการเงินครั้งแรกฉันแอบกังวลว่าหนังจะน่าเบื่อเกินไป แต่เมื่อฉันดูฉันคิดผิด ใครก็ตามที่เริ่มให้ความสนใจกับกระดานนี้สามารถเข้าใจได้ง่าย เพราะมีโหนดและลักษณะเฉพาะในระดับหนึ่ง บวกกับความสนุกของเรื่องราวที่ดีที่สุดที่เคยมีมา และภาพวิชวลประกอบกับกราฟิกที่อลังการไม่น่าเบื่อเลย ยอมรับว่ากราฟิกสวย รอบที่ฉันดูเป็นแบบ 3 มิติ และหลายฉากก็ยอดเยี่ยม และแฟนๆ ของภาคเก่าจะมีความสุขกับตอนจบที่สมบูรณ์แบบ ยังมีความสนิทสนมกันทั้งน้ำตาทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มาร่ำลาผู้ชมส่งท้ายกันในตอนจบนี้ แต่แฟนหนังสือจะต้องยอมรับให้ได้ว่ามันไม่เหมือนหนังสือเสียทีเดียว แต่ก็ให้ความบันเทิงพอๆ กับภาพยนตร์ ควรค่าแก่การต้อนรับวันแม่