รีวิวหนังผจญภัยในป่า ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์ จากนักแสดงดัง เดอะร็อค

สวัสดีจ้า วันนี้เรามี หนังdisney จะมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน เรื่อง jungle cruise (ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์) ที่สร้างโดยค่ายดิสนีย์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้าง จากเครื่องเล่นในสวนสนุก disneyland มาสร้างเป็นหนัง แนวแฟนตาซี ผจญภัยและตำนานเรื่องลี้ลับ ในแบบที่ดิสนีย์ถนัด ซึ่งบอกได้เลยว่า เป็นกระแสมากๆ และประสบความสำเร็จ ติด 10 อันดับ หนัง Jungle Cruise Netflix โดยหนังได้นักแสดงนำ อย่าง ดเวย์น จอห์นสัน(เดอะร็อก) และเอมิลี่ บลันต์ มาเป็นตัวนำเรื่อง ทีนี้เรามาอ่านรีวิวหนังใหม่hd กันเถอะ

Jungle Cruise เรื่องย่อ ‘กัปตันแฟรงก์ วูล์ฟ’ (dwayne johnson) ผู้ปราดเปรื่อง และ ‘ดร. ลิลี ฮัฟตัน’ (emily blunt) นักสำรวจผู้กล้าหาญ ลิลี่เดินทางจากลอนดอนสู่ป่าแอมะซอน พร้อมทั้งว่าจ้างแฟรงค์ให้เป็นผู้นำทางในการล่องแม่น้ำ โดยเรือคู่ใจของเขา ‘la quila’ ที่แม้สภาพจะโคลงเคลงแต่ก็ยังดูดี ลิลีมีความมุ่งมั่นที่จะตามหาต้นไม้ในตำนานที่มีความสามารถในการรักษา เพื่อนำพลังนี้มาใช้พัฒนาการแพทย์ ในการผจญภัยครั้งนี้ทั้งสองจะต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่คาดฝันจากสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ และสิ่งล่อลวงอันสวยงามในป่านี้ แต่ยิ่งเข้าใกล้ความลับของต้นไม้ในตำนานเท่าไหร่ ทั้งลิลี่และแฟรงค์ต่างวางเงินเดิมพันสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับชะตาของมนุษย์ที่อาจจะสั่นคลอน

ครั้งนี้ดิสนีย์พยายามสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งอย่าง “The Jungle Cruise” อีกทั้งการผจญภัยต่างๆ ในลุ่มน้ำอเมซอนและผสมตำนานลึกลับแฟนตาซีในแบบที่ Disney ถนัด มีการออกอากาศในบางประเทศ รวมถึงฉายใน Disney+premier access (บริการสั่งหนังล่วงหน้าและเข้าฉายในโรงที่ ในเวลาเดียวกัน) ก็มีแนวโน้มที่ดีมีข่าวลือว่าจะมีภาคต่อ

ตามที่กล่าวไว้ใน Jungle Cruise 2021 เขาเดินทางผ่านสวนสนุกเพื่อไปยังจุดสูงสุดของภาพยนตร์ เป็นเรื่องราวเหนือธรรมชาติแนวแฟนตาซีลึกลับและการผจญภัยของชาวอะเมซอน ย้อนไปในปี 1912 สองปีก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อนักพฤกษศาสตร์ ดร. ลิลี่ โฮลเดน (เอมิลี่ บลันท์) จากลอนดอน จ้างดร. ลี ลี โฮลเดน (เอมิลี่ บลันท์ เอมิลี่) บลันท์), แฟรงก์ วอลล์ เอฟ. (ดเวย์น จอห์นสัน) เป็นกัปตันเรือสำราญ, เรือสำราญเกือบจมลงในแม่น้ำชื่อลาควิลา” ภารกิจของเขาคือค้นหา “น้ำตาพระจันทร์” ซึ่งเป็นต้นไม้ในตำนานที่ ดอกไม้มีพลังลึกลับในการรักษา ระหว่างทาง ทั้งคู่จะต้องเผชิญอุปสรรคต่าง ๆ ระหว่างทาง ตำนานต้องสาปที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลและคู่ต่อสู้ที่ต้องการ Moon Tears เพื่อชนะสงคราม

ตัวบทเองถ้าใครชอบหนังดิสนีย์แนวนี้. รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะเป็นหนังที่ตรงไปตรงมา มันเหมือนกับหนังผจญภัยที่จริงจังมาก รวมอารมณ์ขัน CG เพื่อให้ทั้งครอบครัวสามารถดูด้วยกันได้ เป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว และแม้ว่าจะมีความรุนแรงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น นี่คือภาพยนตร์ที่เด็กสามารถรับชมได้อย่างง่ายดาย

อีกอย่างที่ผมต้องพูดถึงในหนังเรื่องนี้ก็คือ มันจะมีมุขซิทคอมตลอดทั้งเรื่อง นั่นคือแนวบันเทิงล้วนๆ การแกล้งของกัปตันแฟรงค์ วูล์ฟกับนักท่องเที่ยว ถึงมุขของฉันจะแย่ (ฮ่าๆ) เรื่องตลกที่ควรจะตลกก็ไม่เป็นไร และแอ็คชันที่มากพอที่จะเขย่าไหล่คุณ รวมถึงอีเวนท์ซิทคอม บังเอิญหรือตลก นี่คือสไตล์ของหนังดิสนีย์ เรียกได้ว่าเป็นหนังที่เหมาะสำหรับดูกันทั้งครอบครัวจริงๆ
รวมถึงตัวหนังเองก็ผสมผสานความเป็นหนังผจญภัยเข้าไปด้วย นี่มันหนังผจญภัยชัดๆ

แต่ผสมผสานความเป็นหนังแอ็คชั่น หนังผจญภัยหลาย ๆ เรื่องอย่าง Jumanji หนังแอคชั่นสไตล์ “The Mummy” และแม้แต่หนังเก่าในสวนสนุกอย่าง “Pirates of the Caribbean” ก็ยังทำออกมาในแนวแฟนตาซีด้วยฉากแอคชั่นสไตล์คอมเมดี้ Action เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจอย่างไม่ต้องสงสัยจาก หนังแอคชั่นสไตล์เฉินหลง แม้ว่าแรงกดดันจะไม่มาก ส่วนซีจีจริงๆ ผู้เขียนมีอารมณ์แอบโล่งบ้างเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะ น้องคิวดาว (เสือดาว) ‘พร็อกซิมา’ ที่ทำออกมาได้น่ารักมากแต่ก็ยังแอบไม่พอใจ

อีกจุดหนึ่งที่เป็นไปตามความคาดหมายเช่นกันคือเรื่องราวของบทนี้ในแวบแรกหลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่หนังล่องเรือผจญภัยแต่กลับทำออกมาได้น่าทึ่งมาก หนังยังมีการหักมุมในหลายๆ จุด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือว้าว และไม่มีอะไรเป็นไปตามคาด

ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องนี้เกี่ยวกับเพศ เรื่องราวย้อนกลับไปในปี 1912 สองปีก่อนที่จะเริ่มสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และแม้ว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างซ้ำซากกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ แต่สตรีในสายวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้รับการยอมรับเพราะสิ่งที่ดูถูกเหยียดหยาม ผู้หญิงที่สวมกางเกงไม่ยอมสวมกระโปรงถือเป็นเรื่องแปลกในเวลานั้น

หรือแม้แต่ ‘แม็กเกรเกอร์ ฮิวจ์ตัน’ น้องชายของลิลี ซึ่งเป็นตัวแทนของ lgbt ที่โดนขับออกจากสังคมเพราะไม่มีใครยอมรับ ซึ่ง ‘jack whitehall’ ก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างพอดี ไม่ล้นเกินควร แต่โดยรวม ๆ ทั้งหมดนี้ตัวหนังสามารถแทรกประเด็นเหล่านี้เอาไว้ได้ออกมาพอดี ไม่ถึงกับสั่งสอนหรือยัดเยียด ส่วนนักแสดงหลัก ๆ ทั้งพี่เดอะ ร็อก และเอมิลี บลันต์ ก็ถือว่าเป็นคู่ที่แสดงกันได้อย่างเข้าขามาก ๆ โดยเฉพาะ พี่เดอะ ร็อก หรือ กัปตันแฟรงก์ วูล์ฟ สามารถรับบทกัปตันหนุ่มผู้แพรวพราว ช่างเจรจาได้แบบมีเสน่ห์ดีทีเดียว ชนิดที่ว่าผู้เขียนเองก็แอบอดนึกถึง ‘หนังรถซิ่ง’ เรื่องนั้นไม่ได้จริง ๆ เพราะว่ารายนั้นเค้าแสดงได้แบบว่า หน้าเดียวถ้วนจริง ๆ นะครับ

ข้อสังเกต จริง ๆ แล้วในหนังเองก็มีมุกตลกเน้น ๆ อยู่เยอะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการกล่าวขานว่าขับเคลื่อนด้วยพลังของมุขตลกที่แฝงอยู่ในนั้น องก์แรกบอกเล่าเรื่องราวของกัปตันที่มีไหวพริบสูง ดังนั้นมันจึงกลายเป็นว่าแรงผลักดันของครึ่งแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ตรงนี้ ทุกสิ่งที่ดูเหมือนจริงจะกลายเป็นเกม สำหรับสิ่งที่กำลังเล่นมันดูไม่จริง ทำให้ครึ่งแรกดูเหมือนเรื่องตลกจนกว่ามันจะขับเคลื่อนสคริปต์และเริ่มต้นแล้วก็ตายเหมือนเรือในภาพยนตร์ เวลาติดก็วิ่งเร็ว แต่พอปิดก็ดับสนิท แต่พอถึงครึ่งหลังกลับดูสนุกขึ้นแม้ว่ามุกตลกจะยังมีอยู่แต่ดูเหมือนว่าจะถูกใส่มากขึ้นในเวลาที่เหมาะสมและบทแอคชั่นก็เข้มข้นเต็มที่ เริ่มมีการผจญภัยให้ลุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ครึ่งหลังดูน่าสนใจมากขึ้น เหมือนเรือประเภทที่เรียกว่าเพิ่งซ่อมและวิ่งได้

โปรดทราบว่าตัวภาพยนตร์นั้น มีความตลกขบขันที่โดดเด่นมากมาย องก์แรกบอกเล่าเรื่องราวของกัปตันที่ฉลาดมาก ปรากฎว่านี่เป็นแรงผลักดันสำหรับครึ่งแรกของภาพยนตร์ ทุกสิ่งที่ดูเหมือนจริงกลายเป็นเกม สำหรับสิ่งที่กำลังเล่นมันดูไม่จริงมากนัก ทำให้ครึ่งแรกดูเหมือนเรื่องตลกจนกว่ามันจะขับเคลื่อนสคริปต์ให้เริ่มต้น จากนั้นตายเหมือนเรือในภาพยนตร์ เมื่อติดขัดจะทำงานค่อนข้างเร็ว แต่พอดับก็ดับสนิท แต่ในช่วงครึ่งหลังมันดูสนุกมากขึ้นแม้ว่ามุขตลกจะยังคงอยู่ เริ่มต้นด้วยการผจญภัยที่จะชนะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ครึ่งหลังดูน่าสนใจขึ้น เหมือนเรือที่เพิ่งซ่อมแซมและวิ่ง

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ติดตามความสนุกได้เรื่อย ๆ บทบาทนำของดเวย์น จอห์นสัน (แฟรงค์) และเอมิลี่ บลันท์ (ลิลี่ โฮลเดน) ทำงานร่วมกันได้ดีมาก มันเหมือนกับดูอะลาดิน อารมณ์จะคล้ายๆ กัน เพราะหนังเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่ “ร้องเพลงส่วนใหญ่ของหนัง” และเขายังคงร้องเพลงแม้ในสมรภูมิอันร้อนระอุ

โดยรวมแล้วภาพยนตร์ Jungle Cruise Disney ภาษาไทยพร้อมคำบรรยายภาษาไทยนั้นสนุกมากกับการล่องเรือในป่า อารมณ์จะคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ ‘ขำตลอด’ นี่ไม่ใช่ข้อดีหรือข้อเสีย เรื่องตลกต้องถูกทิ้งไปหนึ่งเรื่องเนื่องจากสถานการณ์ตลกในภาพยนตร์