สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมานำเสนอภาพยนต์ซูเปอร์ฮีโร่ หนังnetflix เรื่อง Birds of Prey (ชื่อไทย: ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด) ซึ่งเป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่สร้างจากค่าย DC ซึ่งเป็นเรื่องราวของ ฮาร์ลีย์ ควิน หลังจากที่เลิกกับโจ๊กเกอร์ไป และยังมีสาวสวยอีก 4คน ที่มาร่วมก๊วนอีกด้วย สามารถรับชมได้แล้วที่ ดูหนังฟรี หรือใครที่ไม่เวลาชมก็สามารถอ่านรีวิวของเราได้ที่ด้านลงได้เช่นกันค้า ถ้าพร้อมไปแล้วดูกันเลยย
เรื่องราวของภาพยนต์ ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด
ชีวิตอิสระของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ (มาร์โกต์ ร็อบบี) หลังเลิกกับโจ๊กเกอร์ต้องมีอันสั่นคลอนเพราะนอกจากจะถูกตามเช็กบิลจาก โรมัน ไซออนนิส (ยวน แม็กเกรเกอร์)หรือแบล็กแมสก์ ว่าที่เจ้าพ่อก็อตแธมคนใหม่ตามหาเพชรมรดกเลือดสุดล้ำค่า จนทำให้เธอต้องบุกไปเอาตัว แคสแซนดรา เคน (เอลลา เจย์ บาสโก)
สาวน้อยนักล้วงกระเป๋าที่ถูกจับกุมอยู่ในสถานีตำรวจ และเมื่อเหตุการณ์ฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมาพบกันครั้งนี้มีทั้ง เรเน มอนโทยา (โรซี่ เปเรซ)
นักสืบสาวใหญ่แห่งก็อตแธมที่ตามสืบคดีโรมันอยู่ , ดินาห์ แลนซ์ (เจอร์นี สมอลเล็ตต์‑เบล) คนขับรถและนักร้องในคลับของโรมันที่พยายามช่วยชีวิตแคสแซนดรา โดยเธอมีฉายาว่า แบล็กคานารี เพราะเสียงของเธอคืออาวุธสำคัญ และเฮเลนา เบอร์ติเนลลี (แมรี เอลิซาเบธ วินสเตด)อดีตลูกสาวมาเฟียที่กลับมาก็อตแธมเพื่อล้างแค้นให้ครอบครัวในนาม ฮันเทรส แม้ต่างที่มาแต่ถนนทุกสายของพวกเธอมีเพียงเป้าหมายเดียวคือการกำจัดโรมันหรือแบล็กแมสก์จอมโฉดนั่นเอง
เป็นการเดิมพันที่คุ้มและขอยกความดีความชอบให้กับหนัง Birds of Prey
Warner Bros. กล้าเอาผู้กำกับหญิงชาวจีนที่เคยดูหนังบล็อคบัสเตอร์เรื่องเดียวอย่าง Cathy Yan ที่เคยแสดงหนังดราม่าและคอมเมดี้เป็นเดิมพันครั้งใหญ่อีกเรื่อง การสะท้อนการเมืองของ “Dead Pig” คือเครดิตเดียวในการกำกับ ภาพยนตร์สารคดี แต่กลับแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตัวละครหญิงในจักรวาล DC
เผชิญหน้ากันอย่างไรภายใต้สถานการณ์สุดขั้วมากกว่า Suicide Squad และที่สำคัญที่สุดคือทั้งผู้กำกับและ Warner ดูมั่นใจในเรต R เวทีรายได้และรางวัล ดังนั้นการผจญภัยของฮาร์ลีย์ ควินน์และผองเพื่อนจึงเต็มไปด้วยความรุนแรง คำหยาบคาย และมุกตลกเหยียดเพศ มันผสมผสานความเป็นเฟมินิสต์จัดจ้านเข้ากับแอคชั่นตลกได้อย่างลงตัว โดยเน้นชีวิตภายใต้อิทธิพลมืดของเมืองก็อธแธม
ข้อดีของหนัง Birds of Prey(2020) ส่วนหนึ่งต้องไปที่บทภาพยนตร์ของ Christina Hodson ผู้เขียนบท Bumblebee ที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Harley Quinn เนื่องจากหนังเลือกตัวละครได้มากมาย การต้องแบ่งปันกับผู้ชมไม่ใช่เรื่องง่าย และการที่มีฮาร์ลีย์ ควินน์เป็นตัวแสดงเพื่อพบกับตัวละครอื่นๆ ก็ฉลาดเช่นกัน เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง ภาพยนตร์เลือกที่จะหยุดเฟรม หยุดเฟรม และใช้เสียงของฮาร์ลีย์ ควินน์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของทุกคน อย่างที่ทราบกันดีว่าตัวละครในจักรวาลดีซี โชคร้ายเกือบทุกคน แม้จะติดอยู่ในเนื้อเรื่องของตัวละครมากมายจนไม่มีใครโดดเด่น แต่สำหรับเรื่องยากอย่างการเอาตัวละครหญิงแกร่งมารวมกัน คราวนี้มันเต็มไปด้วยสีสัน ตลกขบขัน แอคชั่นและดราม่าที่เข้ากับเทรนด์ Me Too
การออกแบบการสร้างของตัวหนัง ถือว่าทำออกมาได้ดี
นอกจากบทแล้ว การออกแบบงานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีจุดเด่นอีกมาก โดยเฉพาะการใช้สีม่วง ชมพู เหลือง เขียว ซึ่งดูสดใสแต่มีความหมายถึงความตาย ความไร้เดียงสา สัญญาณเตือน และความเป็นพิษ ตั้งแต่การจัดแสงไปจนถึงการเลือกสีเสื้อผ้าของตัวละครของคุณ แม้ว่า… สีเหล่านี้ส่วนใหญ่จะปรากฏในเกือบทุกส่วนของตัวละครของ Harley Quinn (ฮ่าๆ) อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจมากคือการรักษากระแส Me Too และการออกแบบโปรดักชั่นฉากสวนสนุกสตรีนิยมที่ออกแบบอุโมงค์ให้เป็นสัญลักษณ์ของช่องคลอดของผู้หญิงในฉาก
ถูกผู้ร้ายชายโฉดใส่หน้ากากเตรียมรุมสกรัมพวกเธอ ซึ่งให้ภาพเปรียบเปรยกับการที่ผู้หญิงต้องถูกคุมคามทางเพศโดยเฉพาะการเสี่ยงถูกข่มขืนผ่านงานภาพได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงการออกแบบ “มือหมุน” แทนที่จะเป็นม้าหมุนก็แน่นอนล่ะว่าพอฉากนี้เหล่าสาว ๆ ต้องสู้กับผู้ชายก็กลายเป็นสัญญะแทนการคุกคามทางเพศที่พวกเธอต้องต่อกรกับ “มือชาย” ที่ล่วงล้ำอาณาเขตทางเพศได้อย่างสร้างสรรค์ทีเดียว ที่สำคัญฉากแอ็กชันของหนังคือเริ่ดมากเป็นการออกแบบฉากบู๊ให้สาว ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว รุนแรง ที่สำคัญมันสามารถเอาอาวุธจากการ์ตูนอย่างค้อนของฮาร์ลีย์ ควินน์ มาใช้เป็นอาวุธได้อย่างเท่มาก
ตัวหนังทำออกมาได้มีสีสันมาก และนักแสดงที่ทำเอาเราเซอร์ไพร์มากๆ
ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด ภาคไทยเต็มเรื่อง นี้มุ่งเน้นไปที่การโปรโมต Harlequin Joker ของ Margot Robbie ซึ่งได้รับฐานแฟน ๆ จำนวนมากจาก Suicide Squad แล้ว ภาพยนตร์ก็แนะนำให้เรารู้จักกับตัวละครใหม่ ๆ ในรูปแบบที่มีสีสันและสนุกสนาน เรายังพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกเขา ขอชื่นชมแผนกคัดเลือกนักแสดงที่เฟ้นหานักแสดงที่เหมาะสมสำหรับบทนี้ เริ่มกันที่ Mary Elizabeth Winstead ในบท The Huntress ซึ่งปรากฏตัวในซีรี่ส์ Arrow ด้วยซ้ำ แต่แมรี่ซึ่งเคยอยู่ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แต่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญมากนัก ทำให้ The Huntress เป็นที่น่าจดจำมากแม้ว่าเธอจะมีเวลาแสดงสั้น ๆ แต่เธอก็ให้บทบาทนี้เป็นตัวละครที่น่าสนใจ แง่มุม ตัวละครอีกตัวจากซีรี่ส์ Arrow คือ Black Canary ซึ่งคราวนี้ดัดแปลงอีกครั้งและนำแสดงโดย Journey Smollett Bell นักแสดงผิวดำคนสวย ในฐานะนักจิตวิทยาเพียงคนเดียวในทีม เธอให้ความสำคัญกับรูปร่างในทุกรูปลักษณ์ ด้วยชุดสีเหลืองที่เน้นผิวสีแทนที่สวยงามของเธอ ดูมีเสน่ห์มากและสามารถแสดงฉากที่น่าทึ่งได้ในระยะเวลาอันสั้น
ส่วนตัวละครที่เซอร์ไพร์สที่สุดเพราะเห็นตัวอย่างแล้วคิดว่าคุณคงไม่ชอบแน่ๆ อย่าง Cassandra Ken ที่จ้าง Ella Jay Basco สาวลูกครึ่งฟิลิปปินส์-เกาหลีมาเล่น Batgirl มันอาจจะขัดใจ แฟนๆ แต่อดใจรอกันนิดนึง เพราะจริงๆ แล้วในหนังเราจะได้เห็นน้องเอลล่าเปล่งประกายในหลายๆ ฉากเลยทีเดียว เกรซ มอเรตซ์ ใน Kick Ass Nae Montoya ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวแทนของ LGBTQ (แสดงโดย Ali Wong ในฐานะทนายความของอดีตคนรัก) อาจดูแก่กว่าเล็กน้อย แต่ช่วงท้ายเรื่องกลับเพิ่มความร้อนแรงให้กับป้าไก่ พูดง่ายๆ ก็คือ Birds of Prey Netflix ทำได้ดีมาก แฟนๆ ชอบมาก และ Ewan McGregor ทำให้ Black Mask ดูโรคจิตและน่ากลัว นักแสดงคุณภาพเยี่ยมเช่นเคย
การเล่าเรื่อง Birds of Prey ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้อ่านการ์ตูนจริงๆ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องสไตล์ DC ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านการ์ตูนเรื่องจริง และภาพในหนังก็สวยมาก. แต่เนื้อหาจะดีกว่า มีหลายฉากที่ผู้เขียนประทับใจ เช่น ฉากที่ฮาร์ลีย์ ควินน์ เต้นรำจนลืมตัวตลก เครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกาย ทรงผม และการแสดงสีหน้าสวยงามมาก ผมดัดสั้นสีบลอนด์และเดรสเปิดไหล่สีชมพูจากยุค 50 คำเตือนถึง Merileen Monroe ผู้แต่งเพลงเต้นรำและร้องเพลง Diamonds เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง จากที่ทะเลาะเบาะแว้งกันครั้งแรกก็รวมพลังช่วยกันจนดูเป็นทีมที่ดีจริงๆ
ทั้งตำรวจ สายข่าว และลูกสาวคนเดียวในบ้านเศรษฐีที่รอดชีวืตและถูกนักฆ่าเก็บไปเลี้ยง หนังไม่ได้มีดีแค่ภาพสวยแอ็กชันดีอย่างเดียว แต่ยังมีธีมเพลง การดำเนินเนื้อเรื่อง และพัฒนาการของตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ ในการพยายาม สลัดโจ๊กเกอร์ออกไปจากชีวิตอีกด้วย และหลังดูหนังจบ เรายังต้องไปหาทาโก้ชีสพอละลายในปากมาชิมตามฮาร์ลีย์ ควินน์ที่มองว่าทาโก้ใส้เบค่อนใส่ไข่ชีสไม่สุกเกินไปคืออาหารเช้าแห่งการเริ่มต้นวันใหม่เลย
สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้คือฮาร์ลีย์ ควินน์เอง และมันก็เหมือนกับบันทึกชีวิตของฮาร์ลีย์ ควินน์หลังจากที่โจ๊กเกอร์ไม่อยู่ และต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อลืมโจ๊กเกอร์ รวมถึงรับเลี้ยงไฮยีน่าและเกิดระเบิดขึ้นที่โรงงานเคมีที่เธอพบเขาครั้งแรก การกินทาโก้เป็นอาหารเช้าเกี่ยวข้องกับการหลบหลีกคู่แข่งและศัตรูในอดีตของเขา
นี่หมายความว่ามาร์กอตร็อบบี้ควบคุมฮาร์ลีย์ ควินน์ในภาพยนตร์จริงๆ: การแสดงออกทางสีหน้า รอยยิ้ม แววตา และฉากแอ็คชั่นนั้นทั้งไม่สงบและบ้าคลั่งเมื่อใช้ เกร็งร่างกายของคุณเพื่อเอาชนะวายร้ายของ Gotham จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ตลกมาก หลายคนที่เคยผิดหวังกับบทฮาร์ลีย์ ควินน์ใน Suicide Squad ต้องกลับมาดูฮาร์ลีย์อีกครั้ง ควินน์ใหม่ในบทนี้