รีวิว จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ
หนังNetflix Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟที่จะพาคุณกระโดดทะลุมิติตามตัวละครไปยังที่ต่าง ๆ ภายในพริบตา แม้หนังจะออกฉายมานานหลายปีแล้วแต่ก็สามารถทำให้คนดูสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ หากใครที่ชอบภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องหายตัวไปทุกที่คงต้องบอกว่าจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
ส ปอย หนัง เป็นหนังอีกเรื่องครับ ที่ตั้งลำมาดี ฟอร์มดี ตัวอย่างก็เข้าท่าดี จนน่าจะทำออกมาเป็นหนังภาคต่ออันทรงคุณค่าได้อีกชุดเลยล่ะครับ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ผู้กำกับ : Doug Liman
ประเภท : Action, Adventure, Sci-Fi
ชื่อภาพยนตร์ จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ
นักแสดงนำ : Hayden Christensen, Samuel L. Jackson, Jamie Bell
รีวิว จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ
รีวิว จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เป็นความสนุกแบบที่ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นจนถึงขั้นสุด แต่ก็ต้องตามดูกันไปจนจบเรื่อง เส้นเรื่องส่วนใหญ่ คือการตามล่า และ หลบหลีกระหว่างโรแลนด์ และเดวิด เรียกได้ว่าวาร์ปไปนู่นมานี่ภายในพริบตาเดียว จนคนดูตามไม่ทัน (วาร์ปกันเป็นวักเป็นเวนจริง ๆ )
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รวมสถานที่ต่าง ๆ บนโลกมาไว้ในเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว โรม และ สถานที่อื่น ๆ อีก คนดูจะได้เห็นการตัดต่อคุณภาพ มีความสมจริงเพราะเสื้อผ้าหน้าผม (แม้กระทั่งรอยแผล) ของนักแสดงนั้นเหมือนเดิมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะวาร์ปจากไหน ไปไหน ซึ่งต้องยอมรับว่า ตัวหนังทำออกมาได้ดีมาก
สิ่งที่น่าสนใจ อีกอย่างหนึ่งในเรื่องคือการที่ภาพยนตร์ค่อย ๆ เล่าถึงความสามารถ และ ข้อจำกัดของผู้เป็นจัมพ์เปอร์ออกมาทีละนิด เป็นการตอบข้อสงสัยต่าง ๆ นานาที่อาจเกิดขึ้นกับคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ตัวหนังยังจุดประเด็นในครอบครัว เกี่ยวกับแม่ของเดวิด พาให้คนดูต้องรอติดตามจนจบ
เพราะเรื่องจะเฉลยในตอนท้าย (แบบงง ๆ นิดหน่อย) ว่าแม่ของเดวิดเป็นใคร อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้ว อยากให้หนังทำภาคต่อ เพราะใครหลายคนที่ดูเรื่องนี้ คงจะอยากรู้ที่มาที่ไปของจัมพ์เปอร์ และ พวกพาลาดินมากขึ้น ทั้งนี้ภาพโดยรวมสำหรับ Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ เป็นหนังที่สนุก และ พล็อตเรื่องมีความน่าสนใจ แบบที่สามารถหยิบมาดูได้ตลอดไม่มีเบื่อ รับรองว่าถ้าได้ดูจะต้องรู้สึกอิจฉาพระเอกสุด ๆ ที่มีความสามารถในการหายตัวไปไหนต่อไหนได้ทุกที่ทุกเวลา
เรื่องย่อ
Jumper (2008) ฅนโดดกระชากมิติ เป็นเรื่องราวของ เดวิด ไรซ์ (รับบทโดย เฮย์เดน คริสเตนเซน) ชายหนุ่มผู้ค้นพบความสามารถพิเศษในการส่งตัวเองไปยังที่ไหนบนโลกก็ได้ตามแต่ใจนึก ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจจากบ้านไปตอนอายุสิบห้าและ ใช้ความพิเศษของตัวเองเข้าไปขโมยเงินในธนาคารจนมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย
แปดปีต่อมาเขาได้พบกับ โรแลนด์ (รับบทโดย ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) ผู้ที่ต้องการจะเอาชีวิตเขาตั้งแต่พบหน้า เดวิดจึงตัดสินใจหนีกลับบ้านเกิด และ ได้ไปหา มิลลี่ (รับบทโดย เรเชล บิลสัน) เพื่อนสมัยเรียนที่เขาแอบชอบมาตลอดโดยที่เขายังไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีความสามารถพิเศษนี้ และ ยังไม่ได้รู้ถึงอันตรายของพาลาดิน พวกคนที่คอยตามฆ่าเหล่าจัมพ์เปอร์มาโดยตลอด จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ 2
ความรู้สึกหลังรับชม
เนื้อเรื่องมีการปูทางที่กระชับ และ ง่ายจนเกินไป เพราะขาดเหตุผลอย่างรอบคอบเหมือนเป็นไปโดยง่าย และ บังเอิญอย่างที่สุด รวมถึงการปรากฏตัวของกริฟฟรินที่เหมือนจะเป็นคู่หูเดวิลมาสักพักก่อนจะขัดแย้งกันด้วยเรื่องจัดการพวกพาราดีนที่ไม่ลงรอย และ สู้กันเอง
ซึ่งตรงนี้ดูสนุกขึ้นมาเพราะต่างคนต่างไล่กวดกันจัมพ์แบบไปที่นู้นที่นี้ที่นั้นในไม่กี่นาทีถึงแม้เนื้อเรื่องจะง่ายค่อนข้างมากแต่ในพล็อตเรื่องนับว่าน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งควรจะจัดแจ่งให้มีเนื้อเรื่องที่ยากกว่านี้รวมถึงควรทำให้มีเนื้อเรื่องมีความน่าติดตามมากขึ้น เพราะบางจุดมีความอืดซึ่งบางครั้งจะมีเป็นส่วนเกินเสียมากกับบางฉากที่ควรตัด ๆ ออกไปจากที่เห็นในด้านเนื้อหายังคงมีปมต่าง ๆ มากมายที่ไม่คลี่คลายให้เสร็จแบบจริงจัง
อย่างเช่นองค์กรพาราดีนที่ตามฆ่าเหล่าจั้มพ์เปอร์ที่ไม่รู้ว่าทำไมกันแน่ จากในเรื่องมีการอธิบายที่นอกประเด็นอย่างสูง คือบอกว่าเป็น”พวกเลือดชั่ว มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่มีความสามราถไปไหนมาไหนได้” แล้วอะไรคือจุดบ่งบอกที่ชัดเจนนอกจากเป็นพวกเคร่งศาสนาแล้วJamie Bell รู้สึกน่าจะเป็นตัวเอกเสียมากกว่าเพราะเล่นขโมยซีน Hayden Christensen บ่อยมาก
โดยเฉพาะถ้าอยู่ด้วยกันยิ่งเห็นได้ชัดเจนเลยว่าใครเหมาะเป็นผู้นำ แต่กระนั้นถ้าปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปคนที่จะเป็นพระเอกก็คงไม่ใช่พระเอก จึงจัดการบทกริฟฟรินให้ขัดแย้งกับเดวิล และ ผลคือความขัดแย้งในความจริงบางอย่างในส่วนลึกของนิสัยที่ดูตื้น ๆ จากเป็นพวกระวังตัว และ มีความคิดมากกว่าเดวิล ก็กลายเป็นพวกรีบเร่งอยากจัดการพาราดีนไว ๆ แบบไม่สนใจใคร ทำให้ดูแล้วขัดตาอยู่บ้าง
แอ็คชั่นมีแน่นอนแต่ไม่อิ่ม หรือ มันส์กว่าที่คาดเอาไว้เพราะนอกจากจั้มพ์แล้วทำอย่างอื่นแทบไม่ได้เลย เนื่องจากอุปกรณ์ฝ่ายร้ายจะมีดี และ แรงกว่ามาก จึงไม่แปลกที่เวลาโดนจับก็เสร็จอย่างเดียว ตรงจุดนี้ค่อยเพิ่มความดีกรีให้เข้มข้นขึ้นมาหน่อย นอกจากแอ็คชั่นที่ไม่อิ่มแล้วยังเรื่องอารมณ์ของหนังที่ไม่รุกเร้าอารมณ์เห็นในความพยายามของตัวละครเลย
จึงเหมือนกับว่าไม่มีความสะใจ หรือ สนุกแบบสุด ๆที่สำคัญคือตัวละครที่ถ้าวัดเอาจริง ๆ ในเรื่อง Diane Lane ที่เล่นเป็นแม่เดวิลไม่จำเป็นต้องออกมาก็ได้ จริงอยู่ที่ว่าเป็นตัวละครที่บอกเหตุผลว่าทิ้งเดวิลไปทำไม และ มีส่วนในการช่วยเหลือครั้งหนึ่ง ถึงกระนั้นยังคงดูน้อยมาก และ แทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเรื่องเลย
ที่น่าสนใจคือการอธิบายรูปลักษณ์ของพลังในการจั้มพ์ว่ามีหลักการใช้พลังอย่างไง รวมถึงข้อด้อยเมื่อโดนไฟฟ้าแล้วจะเป็นแบบไหนได้ดี รวมถึงการย้ายมิติไปกับสิ่งของที่ใหญ่มากกว่าตัวได้อย่างรถทัวร์ ที่กริฟฟรินจับจากโตเกียวไปโผล่ที่อียิปต์ คิดว่าในการจัดการเรื่องเอฟเฟคไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนเพราะทำออกมาดี
ถึงแม้บางจุดจะเหมือนไม่เนียมเพราะใช้ CG มากไปหน่อยก็ตาม แต่ถือว่ายังโอเคอยู่ที่หายวาปไปมาแบบดูไม่งง แต่สำหรับคนที่ดูไม่ต่อเนื่องคงต้องงอย่างแน่นอน เพราะไหนจะโตเกียว อียิปต์ หรือ จะตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ล้วนแต่เห็นสลับฉากไปมาเพราะการจัมพ์ คนโดดกระชากมิติ พากย์ไทย เต็มเรื่อง
รีวิว จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ
รีวิว จัมพ์เปอร์ ฅนโดดกระชากมิติ โดยพล็อตน่ะถือว่าเข้าท่าเลยล่ะครับ ตัวเอกชื่อ เดวิด ไรซ์ (Hayden Christensen) เป็นยอดมนุษย์ที่มีพลังจัมพ์เปอร์ สามารถพาร่างตัวเองโดดข้ามมิติไปไหนต่อไหนก็ได้ตามแต่ใจนึก แต่แล้วเขาก็ต้องเผชิญกับกลุ่มพาราดิน อันเป็นองค์กรที่หมายมั่นจะกวาดล้างคนพันธุ์จัมพ์เปอร์ให้หมดสิ้นไป
ซึ่งหัวหน้าที่ล่าเดวิดก็นำโดยโรแลนด์ (Samuel L. Jackson) พาราดินฝีมือพระกาฬตัวหนังจะว่ามาพร้อมสูตรครับ มีคนที่มีพลัง แล้วก็เจอกับกลุ่มวายร้าย จากนั้นก็ปะทะกัน สู้กัน เอาตัวรอด แล้วเรื่องก็ดำเนินไปถึงไคลแมกซ์ ก่อนจะสรุปเรื่องแบบทิ้งเชื้อสำหรับภาคต่อต้องยอมรับว่าโครงของ Jumper นั้นมาดีมาก ๆ
แต่การดำเนินเรื่อง ถ่ายทอดบอกเล่ากลับไม่ค่อยมีอะไรให้น่าติดตามสักเท่าไร เหมือนเดินเรื่องไปอย่างหลง ๆ ยังไงก็ไม่ทราบ เหมือนจะมีอะไรให้ติดตาม แต่พอตามไปดูก็ดันไม่มีอะไรซะอย่างงั้น ปมหลายอันในเรื่องก็ถูกเปิดขึ้น แล้วก็ทิ้งคาไว้ ซึ่งก็เข้าใจล่ะครับว่าน่าจะทิ้งไว้ไปเฉลยในภาคต่อ
แต่ด้วยความที่ปมมันเยอะเกินไป เลยทำให้เกิดความงงมากกว่าจะทำให้เกิดอารมณ์อยากตามไปดูภาคต่อ…แต่ถ้าถามว่าอยากดูภาคต่อ หรือ ไม่ล่ะก็ บอกได้เลยครับว่าอยาก ขอให้ทำออกมาแบบมันส์ ๆ แอ็กชันเยอะกว่านี้ สางปมเดินเรื่องให้เร้าใจกว่านี้ รับรองว่าต้องสนุกแน่นอน เพราะองค์ประกอบมันเปิดโอกาสให้เล่นกับจินตนาการได้แบบสุด ๆ รวมไปถึงฉากแอ็กชัน ซึ่งหากพลิกแพลงดี ๆ เชื่อเถอะครับว่าทำได้มากกว่าแค่หายตัวตีกันแน่นอน จัมเปอร์ คนกระโดดกระชากมิติ เต็มเรื่อง
บทสรุป
Jumper คงเป็นหนังที่ขายกระแสวัยรุ่นได้พอประมาณ ที่ไม่คาดหวังกับเนื้อหาของเรื่อง เอาแค่ได้นักแสดงหล่อ ๆ และ เรื่องราวแบบวัยรุ่นที่มีความทะเยอทะยาน มาใช้ให้สนุกแบบง่าย ๆ แต่ที่ดีคือการลงทุนไปที่ต่าง ๆ เพื่อเก็บโลเคชั่นสถานที่ทำให้การจัมพ์ดูเป็นจริง ก็ถือว่าเป็นหนังดูเพลินที่ไม่ต้องไปหวังอยากคิดอะไรมาก แถมแอ็คชั่นมาเป็นระยะ ๆ ชวนให้น่าติดตาม(ที่ถึงแม้จะไม่มีอะไร) แต่ถ้าปมประเด็นต่าง ๆ ถูกเปิดเผยมากกว่านี้คงจะดีไม่น้อย
เพราะนั้นทำให้เนื้อเรื่อง มีเป้าหมายมากกว่านี้ที่รับประกันความสนุก สำหรับใครที่กำลังหาหนังไว้ดูยามว่างสักเรื่องขอแนะนำเรื่องนี้ไว้ โดยใช้เวลาดูประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น สำหรับผู้ที่ชอบภาพยนตร์แนวแอคชั่นวาร์ปได้ต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลยทีเดียว จัมเปอร์ คนกระโดดกระชากมิติ ภาค1