รีวิว ล่าคน ปลอมคน

รีวิว ล่าคน ปลอมคน

หนังNetflix นี่คือภาพยนตร์ใหม่ล่าสุด ที่มีมีมเกี่ยวกับการเมืองไทยมากมาย เต็มโซเชี่ยลเลย เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับผู้เขียนนั้น ผมถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญครั้งใหญ่เลยครับ กับการขึ้นแท่นเป็น ผู้กำกับ เขียนบท ครั้งแรก รวมถึงแสดงนำใน ผลงานแอคชั่น-สายลับสุดเดือดแห่งปี “Hunt ล่าคนปลอมคน” พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์ พาผลงาน เรื่องแรกของเขา ไปฉายโชว์ในรอบ Midnight Screen ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด ซึ่งผู้กำกับน้อยคนนักที่จะสามารถมาอยู่ในจุดนี้ได้ โดยหลังจากฉายภาพยนตร์จบเขายังได้รับเสียงปรบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 7 นาที พร้อมกวาดคำชม มาอย่างล้นหลาม เมื่อภาพยนตร์เข้าฉายในประเทศเกาหลียังกระแสแรงจนเปิดตัวอันดับ 1 บ๊อกซ์ออฟฟิศ ของเกาหลีมีผู้ชมกว่า 2 ล้านคนอีกด้วย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง สืบจุดแข็ง 5 ตัวละครจาก Hunt ล่าคนปลอมคน ก่อนเดินหน้า “ล่า” ให้รู้ว่าใครคือ “หนอนบ่อนไส้” ที่แฝงตัวอยู่ในองค์กร ภาพยนตร์แอ็กชัน-สายลับที่ยังครองอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลี 2 สัปดาห์ซ้อน กับมิชชันเดือดที่มีชีวิตคนทั้งชาติเป็นเดิมพัน ล่าคนปลอมคน กำลังจะอุบัติขึ้น ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว ล่าคน ปลอมคน

รีวิว ล่าคน ปลอมคน เปิดปฏิบัติการความมันส์แบบเต็มพิกัด ในภาพยนตร์แอ็กชัน-ดราม่าสุดเข้มข้นจากเกาหลี “Hunt ล่าคนปลอมคน” กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ 2 ซูเปอร์สตาร์เอเชียที่มีผลงานระดับโลกอย่าง “อีจองแจ” จากซีรีส์สุดฮิต Squid Game และ นักแสดงชายแถวหน้าของเกาหลีอย่าง “จองอูซอง” จาก Steel Rain ที่โคจรมาพบกันในรอบกว่า 20 ปี ในผลงานครั้งใหม่ภารกิจล่าเดือดโคตรสายลับกับแผนก่อการร้ายที่เป็นภัยลุกลามระดับประเทศ ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Hunt ก็ได้มีโอกาสไปร่วมฉายในรอบ Midnight Screening ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมจากผู้ชมถึงความเข้มข้น และเรื่องราวที่ไม่สามารถคาดเดาได้

เมื่อหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับระหว่างประเทศ (อีจองแจ) และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (จองอูซอง) ถูกมอบหมายให้ตามล่า สายลับเกาหลีเหนือ ซึ่งแฝงตัวอยู่ในองค์กร เมื่อสายลับเริ่มปล่อยข้อมูลลับสุดยอดระดับประเทศ สองบิ๊กแห่งองค์กรจึงถูกบีบให้ต้องมาสืบสวนกันเอง ซึ่งถ้าพวกเขาหาตัวการไม่ได้ ทั้งสองอาจต้องกลายเป็นแพะรับบาปในแผนการร้ายที่มีความเป็นความตายของประธานาธิบดี และประชาชนทั้งคาบสมุทรเกาหลีเป็นเดิมพัน

กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซอีกเรื่องนี้ และถือว่าเป็นการเดบิวต์ในฐานะผู้กำกับได้อย่างงดงามของนักแสดงหนุ่ม “อีจองแจ” ที่ยังคงเป็นปีที่ปังในอาชีพของเขาอยู่ต่อไป เพราะว่า “Hunt ล่าคนปลอมคน” ผลงานหนังแอคชั่นสุดกระหน่ำของเขา ยังคงยึดบัลลังก์แชมป์หนังที่เกาหลีใต้เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกอบโกยรายได้และยอดผู้ชมแบบฟิน ๆ

KOFIC ได้เปิดเผยตัวเลขรายได้ของ Hunt ล่าคนปลอมคน ในสัปดาห์ล่าสุดที่เก็บเงินเพิ่มไปอีก 7.5 พันล้านวอน ที่นับว่าลดลงไปจากการเปิดตัวเมื่อวีคก่อนแค่เพียง -35% เท่านั้น โดยล่าสุดก็ฟันรายได้รวมไปได้แล้วกว่า 3.1 หมื่นล้านวอน ถือว่ายังปังสุด ๆ ไม่เบา

ไม่เพียงเท่านั้น Hunt ยังคงกวาดยอดผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง จากการสถิติการเก็บยอดจำนวนขายตั๋วหนังเรื่องนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ก็สามารถทำยอดผู้ชมทะลุ 3 ล้านคนได้อย่างเป็นทางการ หรือคิดเป็นเพียง 11 วัน หลังจากการลงโรงฉายเพียงเท่านั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จขององค์การหนังเกาหลีในปีนี้

เรื่องย่อ ล่าคน ปลอมคน

สำหรับ Hunt ล่าคนปลอมคน เป็นเรื่องราวของ พัคพยองโฮ กับ คิมจองโด ต่างปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้ที่ประจำหน่วยรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การทำงานในหน้าที่ของเขาค่อนข้างมั่นคงและได้รับการยอมรับจากหลายฝ่าย แต่ปรากฏว่าสถานการณ์พลิกผัน เมื่อมีสายลับเกาหลีเหนือแอบแฝงด้วยเข้ามาที่ฝั่งเกาหลีใต้ ทำให้พวกเขาต้องเปิดฉายห้ำหั่นและสืบค้นหาความจริงที่แอบซ่อนอยู่ว่ามันคืออะไรกันแน่? ล่า คน ปลอม คน พากย์ ไทย

บทบาทนักแสดงมากฝีมือ

อีจองแจ ที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับในหนังเรื่องแรกของเขา และยังร่วมแสดงนำในเรื่องนี้ด้วย ประกบกับเพื่อนนักแสดงสุดซี้ “จองอูซอง” โดยที่หนังเรื่องนี้ได้นำไปเปิดตัวฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุดที่ผ่านมา และกำลังมีคิวลงโรงฉายที่เมืองไทยในวันที่ 1 กันยายนนี้

“อีจองแจ” นักแสดงเกาหลีชื่อดังผู้ก้าวขึ้นมาสู่ความเป็นนักแสดงระดับโลก หลังจากฝากผลงาน ในซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Squid Game ปี 2021 ด้วยความสามารถที่โดดเด่นทำให้เขาคว้ารางวัล SAG Awards รวมถึงถูกเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัล Emmy Award ทำให้เขากลายเป็นที่กล่าวขาน และถูกยกให้เป็นนักแสดง คุณภาพระดับเอลิสต์จนเป็นที่รู้จักในระดับสากล

ในปี 2022 ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ กับการขึ้นแท่นเป็น ผู้กำกับ เขียนบท ครั้งแรก รวมถึงแสดงนำ ใน ผลงานแอ็กชัน-สายลับสุดเดือดแห่งปี “Hunt ล่าคนปลอมคน” พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์ พาผลงาน เรื่องแรกของเขา ไปฉายโชว์ในรอบ Midnight Screen ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด ซึ่งผู้กำกับน้อยคนนักที่จะสามารถมาอยู่ในจุดนี้ได้ โดยหลังจากฉายภาพยนตร์จบเขายังได้รับเสียงปรบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 7 นาที พร้อมกวาดคำชม มาอย่างล้นหลาม เมื่อภาพยนตร์เข้าฉายในประเทศเกาหลียังกระแสแรงจนเปิดตัวอันดับ 1 บ๊อกซ์ออฟฟิศ ของเกาหลีมีผู้ชมกว่า 2 ล้านคนอีกด้วย k.aglet ประวัติ

รีวิว ล่าคน ปลอมคน

รีวิว ล่าคน ปลอมคน HUNT เป็นภาพยนตร์แอ็กชันสายลับชิงไหวชิงพริบกัน มันเล่าเรื่องของคนที่ต้องทำอะไรขัดกับความเชื่อและ หลักการของตัวเอง เรื่องราวการตามหาสายลับที่แฝงตัวอยู่ในองค์กร KCIA โดยผมรับบท “พัคพยองโฮ” และ “คิมจองโด” รับบทโดย จองอูซอง

ระหว่างการค้นหาตัวสายลับทำให้ทั้งสองคนเกิดความสงสัยในกันและกัน แล้วยังต้องมาเจอกับคดีลอบสังหารคนสำคัญเบอร์หนึ่งของเกาหลี ทำให้เกิดเรื่องพลิกล็อคและเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องมีความสนุกก็จริง แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พูดคุยกับหลาย ๆ คนเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ถึงแม้จะนำเรื่องที่เกิดในยุค 80 ขึ้นมาทำ แต่ผมคิดว่ายุค 80 กับตอนนี้มีจุดที่ไม่แตกต่างกันอยู่ ทั้งเรื่องราวในจุดเหล่านั้น ทั้งความคิดอื่น ๆ ที่ตัวละครมีอยู่ การลองถ่ายทอดสิ่งที่คิดออกมา ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากครับ

จะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับตัวละครเพื่อให้พวกเขาปะทะกันอย่างร้อนแรง และผมหวังว่าการปะทะกันที่ดุเดือดนี้จะเต็มหน้าจอ พวกประเด็นที่ต้องไม่ให้เห็นเยอะไปเราก็ต้องมานั่งคิดด้วยกัน เพลง สาย เกินไป

สรุป

แน่นอนว่าฉากแอ็กชันตระการตาเป็นส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้ แต่ผมอยากให้แน่ใจว่าผู้ชมจะอินไปกับเนื้อเรื่อง อึ้งไปกับทุกจุดหักมุม และเอาใจช่วยสองตัวละครนำ

ถึงพวกเราจะบอกว่าเป็นหนังประเภทสายลับก็จริง แต่เนื้อหาไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น คนดูอาจจะคิดว่าขั้นตอนการสืบสวนหาคนร้ายไม่ได้ซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว เราได้อธิบายไว้ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ต่างหาก เข้าไปดูแบบสบาย ๆ ได้เลยครับ แต่ว่าเรื่องอาจจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก แค่สนุกไปกับความเร็วพวกนั้นก็พอครับ

และนอกจาก Hunt แล้วนั้น บ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีก็ยังมีหนังเกาหลีอีกเรื่องที่ยังโดดเด่น นั่นก็คือ “Hansan: Rising Dragon” หนังภาคต่อที่เหมือนเป็นภาคต้นของหนังแอคชั่นสงครามชื่อดัง ที่ล่าสุดยังยึดตำแหน่งรองแชมป์ได้อยู่ หลังจากเข้าฉายมาได้ 4 สัปดาห์ กวาดเงินไปแล้วกว่า 6.8 หมื่นล้านวอน กับยอดผู้ชม 6.7 ล้านคน ในขณะที่ “Emergency Declaration” หนังหายนะบนเครื่องบินของเกาหลี ที่ถือว่าผิดฟอร์มในบ้านเกิดไปเล็กน้อย ล่าสุดทำเงินไปแล้ว 2 หมื่นล้านวอน กับยอดผู้ชมที่เพิ่งแตะ 2 ล้านคน วัน เวลา VareeONE