รีวิว สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
หนังNetflix สวัสดีครับวันนี้แอดมินมาแนะนำหนังสยองขวัญ ไล่ล่า ที่แค่ได้เห็นหน้าปกหนังแอดมินก็อดใจดูไม่ไหว จนต้องรีบไปดูเลยครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ‘The Black Phone’ หรือ ‘สายหลอน ซ่อนวิญญาณ’ กับหมอแปลก ‘Doctor Strange’ ฮีโรจากค่าย Marvel มันมีความเกี่ยวข้องกันอยู่นิด ๆ นะครับ เหตุผลก็เพราะว่า สก็อต เดอร์ริกสัน (Scott Derrickson) ผู้กำกับสายสยองขวัญที่เคยสร้างชื่อใน ‘Sinister’ ทั้ง 2 ภาค รวมทั้ง ‘The Exorcism of Emily Rose’ (2005) แกเคยแวบไปกำกับ ‘Doctor Strange’ (2016) มาก่อนแล้วทีหนึ่ง ดูหนังออนไลน์
แล้วจริง ๆ เดอร์ริกสันนักเขียนบทคู่บุญ ซี โรเบิร์ต คาร์กิลล์ (C. Robert Cargill) ที่เคยเขียนบทด้วยกันทั้ง ‘Sinister’ (2012) ‘Sinister 2’ (2015) และ หมอแปลกภาคแรก ก็มีความตั้งใจไว้แล้วแหละว่าจะกลับมากำกับภาคต่อ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ (2022) แต่ว่าด้วยความที่ไอเดียไม่ลงรอยกัน เดอร์ริกสันกับคาร์กิลล์ก็เลยขอบาย หันกลับมาสร้างหนังสยงขวัญทุนต่ำในแบบที่คุ้นเคย จนออกมาเป็น The Black Phone ได้ในที่สุด ดูหนังออนไลน์
รีวิว สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
รีวิว สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ที่ผู้เขียนบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำ อันนี้ต้องเน้นย้ำว่าทุนเค้าต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริง ๆ นะครับ เพราะหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ล่าสุดจากค่าย ‘บลัมเฮาส์ โปรดักชันส์’ (Blumhouse Productions) เรื่องนี้ เขาใช้ทุนสร้างแค่ 18.8 ล้านเหรียญเองครับ แต่เห็น Low Cost แบบนี้ ทำรายได้ฉายในต่างประเทศฟาดไปเกือบ 100 ล้านเหรียญ พร้อมกับคำวิจารณ์ที่ถือว่าค่อนไปทางบวกเป็นส่วนใหญ่ ดูหนัง
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เดอร์ริกสัน และ คาร์กิลล์ร่วมมือกันดัดแปลงเรื่องสั้นความยาว 30 หน้า จากผลงานหนังสือรวมเรื่องสั้นแนวสยองขวัญติดอันดับ The New York Times Best Sellers ที่มีชื่อว่า ’20th Century Ghosts’ (2015) เขียนโดย โจ ฮิลล์ (Joe Hill) ซึ่งเขาก็คือลูกชายของ ‘สตีเฟน คิง’ (Stephen King) เจ้าพ่อสยองขวัญระดับตำนานนั่นเอง และ ยังได้พี่ อีธาน ฮอว์ก (Ethan Hawke) ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน ‘Sinister’ (2012) กลับมาร่วมชายคาบลัมเฮาส์อีกครั้ง ดูหนัง
เรื่องย่อ สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
เรื่องราวของ The Black Phone ว่าด้วยเรื่องของ ด.ช. ‘ฟินนีย์ ชอว์’ (Mason Thames) เด็กชายขี้อายแต่มีแววอัจฉริยะวัย 13 ปี ที่ถูกฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตภายใต้หน้ากากที่มีนามว่า ‘เดอะ แกร็บเบอร์’ (Ethan Hawke) ลักพาตัวไปขังไว้ในห้องใต้ดินที่แสนจะอับทึบ และ เงียบงันจนแทบจะไม่มีใครได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ แต่ในห้องนั้นกลับมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ นั่นก็คือโทรศัพท์โบราณสีดำเครื่องหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนั้น
ทันใดนั้น เหตุการณ์เหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น เมื่อน้องกลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง ทั้ง ๆ ที่ตัวมันเองไร้ซึ่งสัญญาณ เมื่อฟินนีย์รับสาย ปรากฏว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ แท้ที่จริงแล้วเป็นโทรศัพท์ผีสิง ปลายสายคือเสียงจากวิญญาณของเหยื่อคนก่อน ๆ ของเดอะ แกร็บเบอร์ ที่พยายามส่งเสียงมาถึงฟินนีย์ เพื่อช่วยเหลือไม่ให้น้องเกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนกับเหยื่อคนก่อน ๆ สายหลอนซ่อนวิญญาณ pantip
เนื้อหา สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
ด้วยความที่ตัวเนื้อเรื่องของหนังเล่าเรื่องภายใต้บรรยากาศของรัฐโคโลราโดยุค 70’s ซึ่งจริง ๆ ยุคนี้ถือเป็นยุคเรืองรองของคดีฆาตกรรม ลักพาตัว ฆาตกรต่อเนื่องเป็นทุนเดิม ตัวหนังก็เลยหยิบเอาบรรยากาศความกลัว และ ความหดหู่อดสูใจจากยุค 1970 มาสร้างบรรยากาศ
ปูเรื่องให้รู้ถึงบรรยากาศความสยองขวัญปนหดหู่ของคนที่อยู่ในล้อมรอบของเหตุการณ์ และ ก็เป็นแรงส่งให้เรารู้สึกถึงการเคารพวิธีการเล่าเรื่องแบบหนังสยองขวัญยุคเก่าไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะว่าไปก็มีความคล้ายกับการเซตบรรยากาศความสยองปนคัลต์ยุค 80’s ในซีรีส์ ‘Stranger Things’ อยู่เหมือนกันนะครับ
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวหนังเองก็ไม่ได้พยายามจะประโคมโหมกระหน่ำฉากโหดเลือดสาด หรือใส่ Jump Scare ตึ่งโป๊ะล่อให้สะดุ้งนะครับ ตรงกันข้าม ตัวหนังกลับเลือกเสื่ยงที่จะเล่าด้วยพล็อตลูกผสมระหว่างพล็อตหนังเชือดแบบสแลชเชอร์ (Slasher) หนังเอาตัวรอดในที่ปิด วิญญาณสิงสู่ และ พล็อตแนว Supernatural หรือแนวเหนือธรรมชาติ ที่ชวนให้นึกถึงพล็อตสยองขวัญผสมเหนือธรรมชาติที่วางพล็อต ‘ชง-ปู-เก็บกลับ’ สไตล์สตีเฟน คิง ที่อาจชวนให้นึกถึง ‘It’ (2017) หรือแม้แต่ ‘Sinister’ (2012) อยู่นิด ๆ เหมือนกัน สายหลอนซ่อนวิญญาณ เรื่องย่อ
รีวิว สายหลอน ซ่อนวิญญาณ พล็อตเรื่องโดดเด่น น่าสนใจ
รีวิว สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ตัวหนังสามารถควบคุมโทนเรื่อง และ พล็อตออกมาได้ค่อนข้างดีเลยล่ะครับ แม้ตัวหนังในองก์แรกจะทำให้รู้สึกว่าเดินเรื่องเนือย ๆ และ มีอาการโดด ๆ ข้าม ๆ ไม่ยอมปูเรื่องบางเรื่องที่ควรจะปูไปบ้าง เพราะเน้นปูเรื่องของฟินนีย์ที่เป็นเด็กฉลาดแต่โดนรังแก โดนบูลลี่เป็นหลัก
แต่ก็ต้องชื่นชมว่า ตัวบทสามารถวางพล็อตเรื่องได้ฉลาดทั้งการวางพล็อต และ ค่อย ๆ วางจุดหักมุมของเรื่องเอาไว้ภายใต้การเล่าแบบนิ่ง ๆ เน้นฉากความรุนแรงที่จัดจ้านติดเรต R แต่ตัวหนังกลับพึ่งพา Jump Scare น้อยมาก แต่สามารถเล่าเรื่องได้หดหู่ น่ากลัวได้ชวนสะดุ้งเกือบทุกดอก
และตัวหนังก็ฉลาดในการวางสัดส่วนระหว่างการเอาตัวรอดของน้องฟินนีย์จากห้องปิดตาย และ ความโรคจิตของฆาตกรหน้ากากปีศาจ พร้อม ๆ ไปกับเส้นเรื่องของตัวละครที่มีความ ‘เหนือธรรมชาติ’ เป็นคนคอยเบิกทางเบาะแสจากภายนอกไปด้วย ก็เลยยิ่งทำให้ชวนให้เอาใจช่วยทั้งคู่ไปด้วย สายหลอน ซ่อนวิญญาณ เต็มเรื่อง
เรียกได้ว่าเป็นการลุ้นระทึกที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ แอบติดตลกร้ายชวนไหล่สั่น มีสารบางอย่างให้คิดต่อ ก่อนจะปิดจ็อบด้วยฉากโหดสะใจแบบสุดเขตเรต R ทำให้หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังสยองขวัญ-ทริลเลอร์ที่ครบรสแบบไม่มีอะไรค้างคาจริง ๆ ครับ
บทสรุป สายหลอน ซ่อนวิญญาณ
โดยสรุป ‘The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ’ คือหนังผี-ทริลเลอร์-เอาตัวรอด ผสม Supernatural ในแบบฉบับของ สตีเฟน คิง ที่สามารถสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอึดอัด วางพล็อตหักมุมได้ชวนสะดุ้ง ขับเคลื่อนเรื่องด้วยความฉลาด ท้าทาย เป็นเหตุเป็นผล น่าเอาใจช่วย ปู และ เก็บกลับได้ดี
แทรกด้วยมุกตลกร้ายกาจเล็ก ๆ ไว้แก้เลี่ยนด้วย นี่อาจไม่ใช่หนังที่ถูกใจคอหนังสยองขวัญสายคลุ้งคาวเลือด สยองขวัญแบบตู้ม ๆ แต่เป็นหนังลุ้นระทึกที่ได้บรรยากาศลุ้นบวกสยองที่เหมาะกับการดูในโรงหนังเพื่อให้ได้อรรถรสอย่างเต็มที่ รับรองว่าดูจบแล้วน่าจะหลอนเสียงโทรศัพท์ไปอีกนาน… สายหลอนซ่อนวิญญาณ พากย์ไทย