รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

สานต่อเรื่องราวจากภาคแรก หลังจาก เอ็ดดี บล็อก อดีตนักข่าวชื่อดังได้ร่วม หนังNetflix ใช้ชีวิตในฐานะคู่หูปราบอาชญากรรมกับ เวนอม ปรสิตจากต่างดาว โดยหน้าที่การงานและความสัมพันธ์กับ แอนน์ อดีตคู่หมั้นสาวยังคงดิ่งลงเหวเช่นเดิม ในภาคนี้เหมือนเขา จะมีโอกาสกลับมารุ่งอีกครั้งเมื่อเขาได้รับการติดต่อจาก คลีตัส แคสซาดี ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังให้สัมภาษณ์พิเศษถึงในคุก และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวายป่วงที่ตามมาไม่สิ้นสุด เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี

 

ในภาคแรก ‘Venom’ (2018) เป็นผลงานการกำกับของ รูเบน เฟลสเชอร์ (Ruben Fleischer) ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากงานอย่าง ‘Zombieland’ (2009) โดยเป็นความพยายามที่จะสร้างตัวร้ายจากจักรวาลหนังสไปเดอร์-แมนที่โซนี่ถือสิทธิ์สร้างภาพยนตร์เอาไว้ให้ภาพลักษณ์เป็นแอนตี้ฮีโร่ เพื่อที่จะนำมาเจอกับ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ หรือ สไปเดอร์-แมน ฉบับของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland)

 

รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

 

หรืออาจจะนำมาทำหนังรวมดาวร้ายอย่าง แก๊ง Sinister Six ในจักรวาลหนังสไปเดอร์เวิร์สของตนเองโกยเงินรับทรัพย์ต่อไป และในภาพรวมถือว่าหนังภาคแรกก็ไม่ได้เล่นท่ายากในการเล่าเรื่องเพื่อรับประกันความสำเร็จไปแล้ว พอมาภาคนี้ได้มีการเปลี่ยนผู้กำกับมาเป็น แอนดี้ เซอร์คิส (Andy Serkis) นักแสดงที่มีชื่อเสียงด้านการแสดงตัวละครโมชันแคปเจอร์ อย่าง

 

กอลลัม หรือ ซีซาร์ แต่สำหรับผลงานด้านการกำกับยังต้องพิสูจน์ตัวต่อไป เพราะผลงานอย่าง ‘Mowgli’ (2018) นั้นยังเทียบความสนุกกับฝั่ง ‘The Jungle Book’ (2016) ของดิสนีย์ที่ออกฉายก่อนแทบไม่ได้เลยหนังใช้เรื่องราวจากไอเดียของ เคลลี มาร์เซล (Kelly Marcel) ที่ร่วมเขียนบทในภาคแรก กับ ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) ที่ควบตำแหน่งนักแสดงนำและผู้อำนวยการสร้างของหนัง โดยดัดแปลงเนื้อหาในคอมมิกช่วง ‘Maximum Carnage’ ที่คาร์เนจ

 

รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

 

ร่วมมือกับชรีก อาชญากรสาวที่ใช้พลังเสียงตั้งตนเป็นพ่อแม่ของแก๊งวายร้ายออกจู่โจมเมืองนิวยอร์กและต้องปะทะกับกลุ่มฮีโร ซึ่งรวมถึงสไปเดอร์-แมนและเวนอมด้วย โดยปรับความสัมพันธ์ของคาร์เนจกับชรีกให้เป็นคู่รักในโรงเรียนดัดสันดานที่ถูกจับให้พลัดพรากกันแทน ซึ่งเอาจริงก็ดูน่าสนใจขึ้น ตัวละครมีมิติมากขึ้น ทว่าก็ยังติดปัญหาบางอย่างที่จะขอยกยอดสรุปในทีเดียว และเนื้อหาในส่วนของฝั่งบล็อกกับเวน่อมนั้น ใช้สืบเนื่องจากหนังในภาคแรกมาต่อทันที โดยแทบไม่ได้ปูพื้นใหม่จึงควรดูหนังในภาคแรกมาก่อน แต่ในภาคนี้ก็จะลดเรื่องราวปลีกย่อยลง โลกในหนังดูเล็กลงและอยู่ในสถานที่ไม่กี่แห่ง ตัวละครไม่กี่คน แม้แต่

 

ช่วงที่คาร์เนจอาละวาดหนักสุด เราก็ไม่ได้เห็นความหวาดผวาของเมืองมากเท่าที่ควร ราวกับว่าไม่มีใครรู้เลยว่ามีปีศาจระดับภัยพิบัติอาละวาดอยู่กลางเมืองนอกจากพวกตัวเอกที่เกี่ยวข้องโดยตรงแต่ที่ต่างจากภาคแรกมากสุดคือ ดูเหมือนเซอร์คิสก็อาจจะมีไอเดียที่อยากยกระดับการเล่าเรื่องเวนอมให้หนักขึ้น ซับซ้อนขึ้น เป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ต้องใช้คำว่า อาจจะ เพราะเราเห็นร่องรอยการปะผุแก้การเล่าเรื่องอยู่หลายครั้ง ที่พอ

 

รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

 

เดาได้ว่าหนังเคยมีอีกเวอร์ชันที่ใช้วิธีการเล่าเรื่องในอีกแบบ ซึ่งเดาว่าในตอนแรก ฟรานเซส บาร์ริสัน ตัวละครของ นาโอมี แฮร์ริส (Naomie Harris) น่าจะไม่ได้ถูกเปิดเผยตั้งแต่ต้นเรื่อง และทำให้การกระทำของตัวละคร คลีตัส แคสซาดี ของ วูดดี ฮาร์เรลสัน (Woody Harrelson) ที่เชื้อเชิญบล็อกให้มาทำข่าวนั้นชวนเป็นปริศนาและลึกลับ คล้ายการต้อนเล่นของฆาตกร

เรื่องย่อ รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

อัจฉริยะกับผู้สัมภาษณ์ใน ‘The Silence of the Lambs’ (1991) และจะทำให้การกระทำของ นักสืบมัลลิแกน ที่รับบทโดย สตีเฟน กราแฮม (Stephen Graham) ที่ดูผิดแปลกในบางฉากอยู่ในหนังตอนนี้นั้นดูสมเหตุสมผลขึ้นทันที (และเป็นจุดที่ทำให้เดาว่าหนังน่าจะเคยเล่าอีกแบบมาก่อน) หนังฟรี หนังใหม่

 

และแม้หนังจะมีศักยภาพที่หนักขึ้นได้ โหดขึ้นได้ เป็นหนังเรต R เต็มตัว เพราะเมื่อรวมกับเรื่องที่เวนอมกับคาร์เนจนั้นต้องมีการเขมือบหัวคนสด ๆ โชว์หน้ากล้องตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว ยิ่งในภาคนี้ร่างหลักของคาร์เนจเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่บารมีความน่ากลัวน่าจะมีมากกว่าตัวร้ายอย่าง ไรออต ในภาคแรกที่อย่างน้อยฉากการต่อสู้ของไรออตกับเวนอมมันก็ดุดัน

 

ยิ่งใหญ่ และเร้าใจ แต่สุดท้าย ‘Venom: Let There Be Carnage’ ก็ยังติดกับเรต PG-13 และความพยายามเป็นหนังตามสูตรที่ใครก็เข้าใจง่ายจนมากเกินไป จึงทำให้หนังไม่พยายามทำตัวมีเหตุมีผล มีความเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจจริง ๆ เท่าไร เหมือนเรากำลังดูตัวการ์ตูนที่

 

 

ทำสิ่งต่าง ๆ เพราะมันเขียนอยู่ในบท เพื่อให้มันเกิดฉากถัดไปและถัดไปอยู่เสมอ จนเหมือนฉากชนฉาก ไม่มีเวลาให้กับการเล่าความคิดจิตใจตัวละครอย่างจริงจัง จนหนังมีความยาวเพียง 97 นาที น้อยที่สุดในบรรดาหนังฮีโรในปัจจุบันกันเลยทีเดียว และน่าเสียดายที่หนังได้นักแสดงมากฝีมือมามากมาย แต่แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้

 

หลายการกระทำอย่างการย้อนคิดถึงอดีตก็ดูเชยและยัดเยียดเกินจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด ฉากต่อสู้ก็ไม่ได้โดดเด่นจนรู้สึกคาร์เนจมีเอกลักษณ์อะไรน่าจดจำนัก นอกไปจากฉากการเปลี่ยนร่างที่ดูน่าสยดสยองขึ้น เมื่อเทียบกับไรออตที่เปลี่ยนอวัยวะเป็นอาวุธหลายรูปแบบขณะสู้ยังดูมีอะไรให้เล่นได้มากกว่า

 

มุกที่พยายามใส่เข้ามาก็ออกทางฝืดเสียส่วนมาก เหมือนเอาผู้ใหญ่ที่ไม่ทันมุกสมัยใหม่มาคิดบทให้คนดูหนังรุ่นใหม่ขำ ดูแค่วัตถุดิบของหนังจริงแล้วมันน่าจะเป็นหนังคู่หูตลกร้ายที่มีตัวชงตัวตบได้ตลอดเวลาแบบสนุก ๆ เลย แต่มันก็ไปไม่ถึง กลายเป็นหนังแอนตี้ฮีโรที่ดูเพลิน ๆ ให้มันจบไป เพื่อเอาข้อมูลไปดูเรื่องอื่นในจักรวาลสไปเดอร์เวิร์สต่อเท่านั้น

 

 

และทำให้ส่วนที่เจ๋งที่สุดของหนังอาจเป็นการเผยรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ส่งผลต่อในหนังเรื่องอื่นอย่าง ฉากหนึ่งของนักสืบมัลลิแกนในช่วงหลัง หรือฉากหลังเครดิตของหนังที่ยาวเพียงไม่กี่วินาทีแต่น่าตื่นเต้นได้มากกว่าหนังทั้งเรื่องเสียอีก และไอ้ไม่กี่วินาทีที่ว่านี้ล่ะก็อาจเพียงพอแล้วที่ทำให้ต้องดูหนังเรื่องนี้ และอาจสำคัญมากสำหรับใครที่รอดู ‘Spider-Man: No Way Home’ (2021) ด้วย

 

จะว่าไปแล้วหนังตัวละครวายร้ายของสไปเดอร์แมนอย่างวีนอม ถูกสลัดคราบ “ผู้ร้าย” ออกเพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าอยากจะเอาใจช่วยให้ตัวละครนี้สามารถคลี่คลายปมของตัวเองให้บรรลุเป้าหมายในตอนท้ายของหนังภาคแรก อย่างที่คนดูทราบว่าเอ็ดดี้(ทอม ฮาร์ดี้) ถูกปรสิตต่างดาวอย่างวีนอมยึดครองร่าง เพื่อความอยู่รอด แม้การปรับตัวเข้าหากันของทั้งสองฝ่ายในช่วงแรกไม่ใช่เรื่อง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่า สุดท้ายแล้วทั้งคู่ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน

 

 

ช่วงเวลาก่อนที่วีนอมจะมารวมร่างกับเอ็ดดี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเอ็ดดี้เองจัดเป็นคนอีโก้สูงแต่ความสามารถต่ำ ความหยิ่งทะนงตนของเขาไม่ได้จางหายไปไหนแต่ยังคงแอบซ่อนฝังรากลึกอยู่ในตัว เช่นเดียวกับทางฝั่งวีนอมเองที่ทำอะไรตามใจ ปากไม่มีหูรูด และหิวเลือดสดๆอยู่ตลอดเวลา

รีวิว เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

หลังจากที่ทั้งสองอยู่ร่วมตัวติดกันเป็นเวลาเนิ่นนาน ส่งผลให้ทั้งคู่เกิดความเอือมระอาต่อกันและกัน จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ของถึงสองเดินมาสู่จุดแตกหักทำให้พวกเขาตัดสินใจ “ห่างกันสักพัก” แต่ห่างได้ไม่นาน เมื่อพวกเขาพบว่า “คาร์เนจ” ซึ่งเกิดจากปรสิตในตัวของเอ็ดดี้ดันหลุดไปรวมร่างกับคลีตัส คาซาดี้ (วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน) ระหว่างที่เขากำลังจะถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาเข้าเส้นเลือด ดันไปกระตุ้นเจ้าปรสิตตัวร้ายให้ยึดครองร่างและออกอาละวาดจนคุกแตกกระจุย

 

เป้าหมายสำคัญของคลีตัสนอกจากการมีชีวิตรอดแล้ว เขายังต้องการกลับไปเจอคนรักเก่าอย่างชรีค (นาโอมี แฮร์ริส) หญิงสาวผู้มีพลังพิเศษในการใช้เสียงกรีดร้องเพื่อทำลายคู้ต่อสู้ ทำให้คลีตัสต้องพึ่งพาคาร์เนจในการใช้พลังพิเศษ ในขณะที่คาร์เนจเองต้องการร่างเพื่อออกหาอาหารเช่นกัน

 

แม้ว่าจะไม่มีอะไรพลิกโผ เมื่อท้ายที่สุดแล้วทางฝั่งเอ็ดดี้และวีนอมก็จำเป็นจะต้องกลับมา “ดีกัน” เพื่อปราบคาร์เนจ แต่หนังได้เลือกที่จะทำให้คนดูเห็นว่าความสัมพันธ์ที่สานต่อ เชื่อมโยงแก่กันมาเป็นเวลานานของเอ็ดดี้และวีนอมนั้น ทำให้ทั้งสองรู้จุด ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

 

 

แข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เมื่อทั้งสองยืดหยุ่นและถ้อยทีถ้อยอาศัยแก่กันและกัน พวกเขาสามารถมองเห็นจุดอ่อนของคาร์เนจและคลีตัสที่ไม่อาจจะประสานเชื่อมโยงเป็นร่างเดียวกันอย่างแท้จริง และทำให้วีนอมเอาชนะอีกฝ่ายได้ในที่สุดVenom: Let There Be Carnage เป็นภาคต่อแบบสูตรสำเร็จจ๋า ซึ่งความสนุกของเรื่องอาจจะไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นดุเดือด หากแต่เป็นมุกตลกและความบ้าบอของตัวเอ็ดดี้และวีนอมที่ทะเลาะ จิกกัดกันอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

 

แต่ที่หนังไม่ได้บอกก็คือ ทำไมคลีตัสจึงรู้ว่าเวน่อมอยู่ในร่างของเอ็ดดี้ ก็ได้แต่เดาว่า คงได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วเจอข่าวเข้าเลยเกิดไอเดีย หรือไม่ก็คือ คลีตัสไม่รู้อะไรเลยแต่ก็ชวนเอ็ดดี้มาสนทนา แล้วจึงได้ลิ้มรสเลือดเข้าโดยบังเอิญจนกลายเป็นคาร์เนจ ถ้าอย่างนั้นแล้วจุดประสงค์จริง ๆ ของการดึงให้เอ็ดดี้มาหาครั้งนี้มันคืออะไร

 

 

‘คาร์เนจ’ คือลูกของเวน่อม เป็นเอเลี่ยนที่รวมร่างกับมนุษย์เช่นเดียวกับเวน่อมนี่แหละ แต่เกิดจากหยดเลือดที่เข้าไปอยู่ในร่างของคลีตัส แม้จะแค่นั้น แต่ก็ทำให้เขากลายร่างเป้นวายร้ายตัวสีแดงที่มีร่างสูงใหญ่กว่า มีพละกำลังและอาวุธที่ดูจะร้ายกาจกว่าเวน่อมเสียอีก สปอยหนัง

 

ภาคนี้ เหมือนความสัมพันธ์ของเอ็ดดี้ บร็อค กับ เวน่อม ดูจะแน่นแฟ้นมากขึ้นแฮะ เสียงของเวน่อมหลายหนก็ดูจะอ่อนโยนลง ทั้งยังคอยเตือนสติเอ็ดดี้อยู่หลายหน ฟังดูเหมือนจะอยู่ร่วมกันด้วยดีมากขึ้น แต่ก็นั่นแหละ สักพักก็งอนกัน ทะเลาะกัน ไม่หยุดหย่อน อารมณ์เหมือนผัวเมียตีกันว่างั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *