รีวิว gerald’s game
หนังNetflix สวัสดีครับวันนี้ผมมีหนังระทึกขวัญสุดแปลกแหวกแนว ที่ถูกลงสตรีมใน Netflix โดยเป็นหนังที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักที่พูดถึงมากนัก โดยเป็นเรื่องที่ดัดแปลงจากนิยายของอัจฉริยะอย่างสตีเฟน คิงแล้วผมรู้สึกว่ามันแปลกแตกต่างจากหลายๆเรื่อง อารมณ์มันเหมือนกับ Misery หนัง/นิยายจิตวิทยา-ระทึกขวัญที่นักเขียนถูกแฟนคลับจับทรมาน แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีประเด็นในแบบของตัวมันเอง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
ส ปอย หนัง Gerald’s Game เกมกระตุกขวัญ วิลเลียม โกลด์แมน นักเขียนบทชื่อดังของฮอลลีวู้ด เจ้าของผลงานอย่าง Butch Cassidy and Sundance Kid (1969) เคยเขียนไว้ในหนังสือ Which Lie Did I Tell? ซึ่งเป็นเสมือนบทบันทึกด้านงานเขียนบทของเขาเมื่อปี ค.ศ.2000 ว่ามีบทประเภทหนึ่งที่ต่อให้เนื้อเรื่องดียังไงเขาจะไม่เขียนเด็ดขาด นั่นคือบทหนังที่ให้ตัวละครเพียงคนเดียว ติดอยู่ในสถานการณ์หนึ่งเพียงที่เดียวตลอดเกือบทั้งเรื่อง นั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะทำให้คนดูสนุก หรือลุ้นไปกับเหตุการณ์ตรงหน้าได้โดยหาสถานการณ์ที่น่าเชื่อถือมาแทรกไว้ได้ตลอดเรื่อง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
รีวิว gerald’s game
รีวิว gerald’s game Gerald’s game เป็นหนังที่สร้างมาจากบทประพันธ์ของ Stephen King เราได้ดูหนังเรื่องนี้จาก Netflix เป็นเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อ เจสซี่ ได้แต่งงานกับสามีที่มีอายุมากกว่า มานาน 11 ปี และเริ่มมีปัญหาครอบครัวกัน สามีชื่อ Gerald จึงพาเจสซี่ไปเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศที่อยู่ห่างไกลผู้คน ทั้งสองสัญญากันว่าจะต้องใช้โมเม้นท์นี้ในการสานสัมพันธ์ครอบครัว ให้กลับมามาความสุขเหมือนเดิมให้ได้
แต่โชคไม่เข้าข้าง Gerald หัวใจวายตายระหว่างที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกันเรื่องเกมของ Gerald ซึ่งเกี่ยวกับบทบาทรักบนเตียง โดยที่ข้อมือทั้งสองของเจสซี่ถูกล๊อคไว้กับเสาหัวเตียงด้วยกุญแจมือที่ Gerald เตรียมมาสำหรับเกมนี้
ความยาวของข้อจำกัดนี้ก็มักมีคนทำหนังชอบเสี่ยงกับการทำหนังในลักษณะเดียวกันนี้อยู่เรื่อยๆ งานที่นึกออกได้ทันทีคือ Phonebooth(2003) ของ โจเอล ชูมัคเกอร์ ที่ให้ตัวเอกต้องตรงอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะที่มีคนข่มขู่เขาให้อยู่ในตู้ดังกล่าวเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งบ่อยครั้งเราจะพบว่าหากผู้สร้างรู้จักสิ่งที่กำลังจะเล่า เราจะได้ชมหนังที่สนุกอย่างคาดไม่ถึง
Gerald’s Game เป็นผลงานดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ สตีเฟน คิง ในปี ค.ศ.1992 ซึ่งกำหนดเนื้อเรื่องให้อยู่ภายใต้สถานการณ์พื้นที่จำกัดได้อย่างฉลาดเรื่องหนึ่ง
หนังพาเราไปรู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่งเลือกจะลาไปใช้ชีวิตในบ้านกลางป่าห่างไกลผู้คนช่วงพักร้อน กระท่อมที่ร่มรื่นเต็มไปด้วยอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เห็นได้ชัดว่าผู้เป็นสามีนั้นมีอันจะกิน ที่มาพักร้อนห่างไกลความเจริญเช่นนั้นก็เพื่อหวังจะมีเซ็กส์ที่สุขสมร่วมกันให้ได้หลังจากที่ผ่านมาไม่เคยประสบผล โดยเจอรัลด์-สามีของเธอนั้นอายุไม่น้อยแล้ว แต่เพราะไม่เคยสุขสมกับภรรยาสักครั้ง เขาจึงอะไรคิดวิตถารที่เชื่อว่าจะทำให้เจสซี่ภรรยาของเขามีความสุขกับสิ่งนั้นได้
มันคือการเล่นเกมแบบ BDSM จับเธอใส่กุญแจมือที่แขนทั้งสองข้างเธอมัดกุญแจกับหัวเตียง แต่เพียงเริ่มลองรักเช่นนั้นได้ไม่นาน เธอก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ตนปรารถนาแน่ๆ …ทว่าน่าเสียดายขณะมีปากเสียงกับเขา ชายวัยกลางคนที่กินยากระตุ้นมากเกินพอดีก็เกิดหัวใจวายไปต่อหน้าต่อตา สถานการณ์ของเธอเลวร้ายยิ่งยากจะหลุดจากพันธนาการในกลางป่าลึก ไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่อนที่สนิทพอจะติดต่อมา โทรศัพท์มือถือแบตเตอรี่ก็ใกล้หมด แถมยังมีหมาหิวโหยที่เธอใจดียื่นเนื้อให้มันที่หน้าบ้านเดินมาวนเวียนเข้ามาไม่ไกลนัก…
เรื่องย่อ
Gerald’s Game หนังเล่าถึงสามีภรรยา คู่หนึ่ง ที่ได้เดินทางไปเปลี่ยนสถานที่แลกของเหลวกัน ณ บ้านพักตากอากาศริมทะเลห่างไกลผู้คน โดยผู้เป็นสามีมีแผนเด็ดมาเซอไพร์ภรรเมียด้วยการเอากุญแจมือสอดใส่ข้อมือของเมียใว้แล้วตรึงใว้กับหัวเตียง เพื่อเป็นการสนองความเงี่ยนหื่นกามและเพิ่มสีสันบันเทิงให้กับชีวิตSex หลังจากไม่ได้กระแทกบั้นเอวใส่กันมานานหลายเดือน ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ดี ผัวก็บอกเมียให้ร้องตะโกนดังๆ ประดั่งถูกชายฉกรรจ์มารุมเย ฝั่งเมียก็ทำตัวไม่ค่อยถูก มีเขิลบ้างอายบ้าง แต่หนักเข้าๆ เริ่มไม่ไหวจึงบอกผัวให้หยุดและไขกุญแจมือกูออกเถอะ เซอร์ไพร์ที่เมิงเตรียมมานี้มันไม่เวิร์คทำจิ๋มกูแห้งผากไปหมดแล้ววววว แต่ทว่าดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อีผัวเสือกหัวใจวายตายซะอย่างงั๊น ปล่อยเมียให้อยู่กับชุดนอนสีฟ้าที่ซื้อมาจากตลาดนัดวันเสาร์เพียงลำพัง แถมยังถูกตรึงใว้หับหัวเตียงด้วย Gerald’s Game IMDb
ความรู้สึกหลังรับชม
มันเป็นเรื่องของเจรัลด์กับเจสซี่ สองสามีภรรยาพากันไปบ้านติดริมทะเลสาบที่ตัดขาดจากผู้คน เจรัลด์กับเจสซี่ตกลงกันว่าจะเพิ่มเติมสีสันให้กับเซ็กส์ด้วยการคล้องกุญแจมือเจสซี่กับเตียง ทว่าจู่ๆก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจนกระทั่งทำให้เจสซี่ต้องติดแหง็กอยู่กับเตียงเพียงลำพัง โดยที่ไม่มีใครจะเข้ามาในบ้านเพื่อช่วยเหลือเธอ นอกจากหมาจรจัดตัวหนึ่งที่หิวโซถึงขั้นที่กินได้แม้กระทั่งศพคน!
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจาก Misery ก็คือ… เมื่อตอนที่เจสซี่ติดแหง็กอยู่กับเตียง เธอจะเริ่มจินตนาการเป็นภาพต่างๆนานา หลักๆแล้วคือเจรัลด์และตัวเธออีกคน นั่นเปิดโอกาสให้คนดูได้รู้ถึงอดีตของเจสซี่โดยไม่ต้องใช้ฉากแฟลชแบ็ก (ระลึกความหลัง) แบบเชยๆ
ในตอนต้นเรื่องคนดูได้เห็นว่า เจสซี่เป็นคนใจดีมาก เธอเห็นใจหมาจรจัด และดูเหมือนจะเป็นคนที่ใสสะอาดเพียบพร้อม แต่เอาจริงๆแล้วเธอกลับมีอดีตอันดำมืดที่ซุกซ่อนไว้ แม้แต่เจรัลด์เองก็ไม่รู้ ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนหนังสือสตีเฟน คิง จะรู้สึกคุ้นเคยดีเลยแหละ (เอาจริงๆนะ สตีเฟน คิงเขียนนิยายเยอะแยะมากมาย แต่มันก็มีส่วนที่คล้ายกันหลายต่อหลายอย่าง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปเลย…)
ผู้กำกับที่ดัดแปลงนิยายเรื่องนี้มาเป็นหนังคือ ไมค์ ฟลานาแกน (สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้) ซึ่งผมเคยดูหนังของเขาสามเรื่อง เรื่องแรกคือ Oculus (สองพี่น้องกับผี), Hush (สาวใบ้กับฆาตกรโรคจิต) และ Ouija: Origin of Evil (กระดานผีภาคต้นกำเนิด) ถ้าใครได้ดูผลงานของผู้กำกับคนนี้จะเห็นว่า เขามักจะทำหนังเล็กๆที่เกี่ยวข้องกับตัวละครไม่กี่ตัว และทุกเรื่องก็จะวนเวียนอยู่ในบ้านหนึ่งหลังหรือสถานที่ที่จำกัดขอบเขต ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองเรื่องยังเล่นกับสภาวะจิตใจกับตัวละครเป็นหลักเสียด้วย
ใน Gerald’s Game เองก็เป็นในลักษณะเดียวกับสามเรื่องที่ว่ามาเลย เพียงแต่ว่าผมชอบกว่า Ouija และ Hush พอสมควร เพราะมันเน้นเรื่องจิตวิทยาของตัวละครเป็นหลัก แล้วหมาจรจัดที่คอยจ้องจะตะครุบเธอก็ช่วยทำให้โทนของหนังดูตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย
ผมชอบที่ผู้กำกับนำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงติดอยู่กับเตียงให้ออกมาได้น่าสนใจเกือบตลอดชั่วโมงครึ่ง จังหวะการตัดต่อช่วยทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับจะมีเรื่องฉิบหายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ยิ่งภาพหลอนในใจของเธอทำงานหนักขึ้น หนังก็ยิ่งรู้สึกสนุกขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ใช่ว่ามันจะสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ปัญหาสำคัญสำหรับหนังเรื่องนี้มีอยู่สองอย่าง
1. จังหวะการเล่าเรื่องในช่วงกลางๆ รู้สึกว่ามันอืดๆไปเสียหน่อย
2. ซัพพล็อตที่เกิดขึ้นในตอนท้าย ซึ่งเฉลยถึงตัวตนที่เธอได้เห็นในระหว่างเกิดภาพหลอน มันทำให้ตอนจบของเรื่องซับซ้อนและยืดเกินความจำเป็น ขาดความกระชับ
แต่หากไม่นับทั้งสองประเด็นนี้ Gerald’s Game เป็นหนึ่งในหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือของสตีเฟน คิงแล้วไม่ห่วย แถมยังค่อนข้างจะน่าชมเชยเอาไม่น้อยเลยด้วย หลักๆแล้วมันไม่ใช่แค่หนังแนว “เซอร์ไวเวิล” แต่มันเป็นเรื่องหญิงคนหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตซึ่งซุกซ่อนอยู่ในใจของเธอเอง สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้บีบให้เธอต้องหันไปมองมันตรงๆ เพื่อจะให้เธอได้ก้าวข้ามมันไปในตอนท้าย ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตรอดหรือไม่มีก็ตาม
ถึงจะน่าผิดหวังที่ประเด็นตรงนี้ไม่ได้ทรงพลังมากนักในช่วงท้ายๆ ทั้งๆที่มีโอกาสจะทำให้รู้สึกว่ามันสุดยอดกว่านี้ได้ แต่ผมก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจเอาไม่น้อยเลย gerald’s game ซับไทย
รีวิว gerald’s game
รีวิว gerald’s game ไมค์ ฟลานาแกน หนึ่งในผู้กำกับหนังสยองขวัญที่ต้องเรียกว่ามือขึ้นอย่างในยุคปัจจุบัน(ผลงานเด่น เช่น Before I Wake ในปี 2016 และ Doctor Sleep ในปี 2019) มาทำหนังให้กับ Netflix และต้องนับว่ามือยังไม่ตก เขาเข้าใจวิธีการใส่ลูกล่อลูกชนในสถานการณ์ที่มีตัวละครและสถานที่จำกัดให้สามารถลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง หากเดินเรื่องช้าและนิ่งไป ในฐานะหนังเขย่าขวัญเรื่องหนึ่งมันอาจจะไปต่อไม่ได้ บทจึงเลือกให้ตัวละครพูดกับตัวเอง กลายร่างเป็นเธออีกคนที่คอยมาแนะนำ มีสามีจำแลงอีกคนมาพูดจาเย้ยหยัน สนทนากับเธอตลอด ก่อนจะผลักพาให้เธอไปเจอกับอดีตที่อยากจะลืม แต่ยังไม่พอตกดึกกระท่อมแห่งนี้ก็มาพร้อมกับฝันร้ายที่ต้องพบพากับอสูรกายตนหนึ่งที่ปรากฎตัวพร้อมกับพระจันทร์ ที่เมื่อสำรวจชีวิตทั้งชีวิตของตนแท้จริงแล้วมันไม่ใช่สถานการณ์ที่มาจากความคิดบ้าๆ ของสามีถ่ายเดียว หากเธอเองก็มีส่วนอย่างยิ่งที่ผลักให้ตนมาเผชิญกับสถานการณ์ที่หัวเราะไม่ออกแบบนี้
คาร่า กูจิโน่ นักแสดงนำของเรื่องอายุจะ 50 แล้วแต่ยังดูดีอยู่ ไม่น่าแปลกใจที่แม้จะไม่ได้โด่งดังแต่ในยุคหนึ่งเธอเคยเป็นนักแสดงสาวเซ็กซี่ที่มีบทวาบหวามอยู่หลายเรื่อง นี่เป็นบทที่พิสูจน์เธออย่างยิ่งเนื่องจากหนังแทบจะอยู่กับเธอตลอดทั้งเรื่อง ในอีกด้านหนึ่งสรีระ และความสวยที่เลยวัยสาวทำให้เราเชื่อได้ว่าสามีของเธอยังมีหลงใหล แต่ในขณะเดียวกันริ้วรอยอันโรยราก็ถูกใช้ประโยชน์ขับเน้นอารมณ์ความหวาดกลัว และเจ็บปวดขณะถูกพันธนาการได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ฉากสุริยุปราคาถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของเรื่อง การถูกล่วงละเมิดทางเพศ (เงาจากดวงจันทร์ที่มาบดบังดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเสมือนด้านมืดในชีวิตที่มาทำลายคนๆ หนึ่ง และครอบครัวให้พังทลายลง) นั้นชวนให้นึกถึงหนังที่ดัดแปลงจากงานของสตีเฟ่น คิงอีกเรื่องคือ Dolores Claiborne(1995) สองประเด็นนี้คล้ายกันมากเพราะเกี่ยวกับตัวเอกหญิงที่พยายามกอบกู้ชีวิตที่ล้มเหลวจากปมในครอบครัว
น่าเสียดายว่าแค่สถานการณ์การหนีตายของเธอก็น่าสนใจและสนุกเพียงพอแล้ว แม้หนังจะไม่ได้เล่นกับเรื่องการจำกัดสถานที่ทั้งหมดก็ตาม(หนังมีฉากย้อนอดีตของตัวเอกในเรื่องแทรกเข้ามากลางเรื่อง) แต่เพราะหนังน่าจะเลือกดัดแปลงให้ตรงกับนิยายต้นฉบับ ช่วงท้ายที่พอเฉลยเหตุการณ์ทุกอย่างก็มีรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเข้าไปจนรู้สึกว่ามันกลายเป็นส่วนเกินไปอย่างช่วยไม่ได้ gerald’s game สปอย
สรุป
สำหรับคนที่อยากดูเฉยๆแบบไม่ต้องคิดอะไรก็ได้นะ หนังเล่าเรื่องสนุกดีเหมือนกัน แปลกแบบไม่เหมือนหนังเรื่องอื่น แถมยังมีตัวละครลับโผล่มาให้สงสัยอีกด้วย แต่ถ้าจะให้ตีความเรื่องนี้เอาเป็นว่า 10 คนคิด 10 อย่างแน่นอน สำหรับแอดมิน คิดว่าเรื่องนี้เป็นหนังสอนใจแนวเปรียบเทียบ ที่เปรียบเปรย ความรัก ไว้ว่าเหมือนการที่คนสองคนถูกล็อคไว้ด้วยกัน และการเก็บความลับก็เหมือนเป็นการล็อคตัวเองไว้ในห้วงเวลาหนึ่ง ใช่หรือเปล่านะ คนอื่นละคิดว่าไง?
ส่วนของความโหดฉากสยองในเรื่อง อาจจะมีไม่ถึงนาที แต่แอดมินดูแล้วจะเป็นลม แบบนางทำไปได้ไง ห่ะ! กล้ามาก โอ๊ยยยยย หวาดเสียวสุดๆ ความรู้สึกแบบว่าฉากนี้มันช่างยาวนาน ดูแล้วลุ้นจนหัวใจจะวายคล้ายจะเป็นลม
โดยรวมแล้วเป็นหนังที่สนุกกับการเล่นสถานการณ์ภายใต้พื้นที่และตัวละครที่จำกัด ใครที่ชอบหนังเขย่าขวัญในแบบเรื่อง Phonebooth ที่โหดกว่า นับเป็นทางเลือกในการชม gerald’s game พากย์ไทย