รีวิว Salmon Fishing in the Yemen
หนังNetflix เป็นหนังที่เมื่อเห็นจากตัวอย่าง รายชื่อนักแสดง และ ผู้กำกับ ก็อดที่จะตั้งความหวังไว้สูงไม่ได้เลย เพราะตัวหนังเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับ ลาสซี่ ฮัลสตรอม ที่หลังจากในปี 2010 ที่ผ่านมาทำเอาผู้ชมทั้งโลกต้องเสียน้ำตาไปกับหมาใน Hachi และหนังที่สร้างจากนิยายของนิโคลัส เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
สปาร์ค อย่าง Dear John เปิดเรื่องที่ อัลเฟรด โจนส์ ดอกเตอร์ ที่คิดมาตลอดว่า สำหรับเรื่องงานเขาคือเบอร์ 1 ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ หากเพียงแต่เขาไม่เคยคิดนอกกรอบ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้านายสุดป่วน แพทริเชีย แม๊กซ์เวลล์ โฆษกรัฐบาลอังกฤษ ก็มองเห็นช่องที่จะผูกมิตรกับ
ท่านชีคผู้ร่ำรวยจากประเทศเยเมน อัลเฟรดเลยได้รับมอบภารกิจให้นำปลาแซลมอน 10,000 ตัว ไปเลี้ยงที่เยเมน เพื่อให้ ท่านชีคและสหายได้รื่นเริงกับการตกปลา ฟังดูแสนง่ายแต่เป็นภารกิจที่แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ อัลเฟรด รับดูแลโปรเจกต์ อย่างไม่มีทางเลี่ยง แต่ในระหว่างอยู่ที่เยเมนเขาได้เจอ แฮเรียต
ผู้ช่วยของชีค ที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปตลอดกาล Salmon Fishing in The Yemen กำกับการแสดงโดย ลาสซี่ ฮัลสตรอม ผู้กำกับชื่อระดับกลาง ที่อย่างที่ได้บอกข้างต้นแล้วว่าเขาคือผู้กำกับที่ทำเอาคนดูน้ำตาท่วมโรงไปเมื่อปี 2010 กับหนังหมาดราม่าเรื่อง Hachi และในปีเดียวนั้นเองเขาก็ได้ผลิตหนัง
ที่สร้างจากนิยายชื่อดังของ นิโคลัส สปาร์ค มาอีกเรื่องกับ Dear John และหลังจาก 2 เรื่องนั้นเปรี้ยงเขาก็หายไปนานพอสมควร จนกระทั่งในปีนี้กลับมากับหนังใหม่อย่าง Salmon Fishing in The Yemen ที่สร้างมาจากนิยายของ พอล ทอร์เดย์ ที่ได้ข่าวว่าเวอร์ชั่นนิยายนั้นได้รับคำชมมากมายไม่ว่าจะเป็นด้านของความโรแมนติค และ ตลกกัดจิก ได้อย่างลงตัว แต่มันกลับไม่ใช่กับเวอร์ชั่นเนี่ยหน่ะสิ เพราะสิ่งเดียวที่ Salmon Fishing in The Yemen ทำให้คนดูรู้สึกสนุกไปกับตัวหนังได้คงหนีไม่พ้นด้านของ นักแสดงนำ
ที่เรื่องนี้ได้ดาราระดับกลางอย่าง ยวน แม็กเกรเกอร์ และ เอมิลี่ บลันท์ มาเล่นเป็นคู่พระนางของเรื่อง ที่ถึงแม้ว่าตัวบทหนังจะไม่ได้ส่งเสริมให้มีฉากกุ๊กกิ๊ก น่ารัก เหมือนกับหนังแนวโรแมนติคหลายๆเรื่อง แต่ต้องขอบคุณนักแสดง 2 คนนี้ที่สามารถแสดง ได้เป็นธรรมชาติ และทำให้คนดูรู้สึกว่าผูกพันธ์กับตัวละคร 2 ตัวนี้จริงๆ
โดยมีคนเคยบอกผมไว้ว่า Salmon Fishing in The Yemen เป็นหนังแนวสร้างความประทับใจที่มาในสไตล์คล้ายๆกับหนังที่เพิ่งเข้าฉายในโรงไปไม่นานอย่าง We Bought a Zoo แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันที่หลังจากผมได้ดู Salmon Fishing in The Yemen ผมกลับรู้สึกไม่ได้กำลังใจเพิ่มมาเลยสักนิด
รีวิว Salmon Fishing in the Yemen
และคำตอบนั้นคงเป็นเพราะการที่ผู้กำกับอยากจะใส่ประเด็น และเรื่องราวของตัวหนังมามากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นด้านของ การให้กำลังใจ , ความโรแมนติค , มุกตลกกัดจิก สังคม และ การเมือง ของเมืองผู้ดีอย่างอังกฤษ และสุดท้ายคือประเด็นเรื่องราว ของ ศาสนา และ ความเชื่อ ในเมือง เยเมน ของท่านชีค หนังฟรี หนังใหม่
ที่ผลลัพธ์ของการที่ผู้กำกับพยายามจะยัดเรื่องราวทั้งหมดมาในหนังเรื่องเดียวมันจึงออกมาได้ไม่สุดสักทาง โดยสิ่งที่รู้สึกตะหงิดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของ ความโรแมนติค ที่นอกจากจะไม่สุดแล้วหนังยังตกม้าตายตรงที่มีการใส่เรื่องราวของ ชู้ และเรื่องราวผิดลูกผิดเมีย ที่ดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่สามารถเข้ากันได้เลยสักนิด
ซึ่งผมคิดว่าถ้าหากหนังมาในแนวมองโลกในแง่ดีแบบสุดโต้งไปเลยอย่าง The Blind Side และ We Bought a Zoo เรื่องราวของการตกปลาในเยเมน ก็คงอาจจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และ กำลังใจ ให้กับคนดูได้มากกว่านี้แน่นอน แต่เป็นเพราะผู้ กำกับพยายามใส่เรื่องราวความขัดแย้ง
ที่พยายามจะทำให้หนังเรื่องนี้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงมากเกินไป มันจึงกลับกลายเป็น ดาบสองคม ที่หันกลับไปฟันตัวหนังเสียเอง เพราะเรื่องราวความขัดแย้งเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่ทำให้ ความโรแมนติคของคู่พระเอกนางเอกดูแล้วจืดสนิท เหมือนกับรสชาติของปลาแซลม่อนในแม่น้ำของประเทศเยเมน และเรื่องราวการกัดจิกที่อ่อนมากๆ
โดยสรุป Salmon Fishing in The Yemen ถือว่าเป็นหนังที่พยายามสร้างกำลังใจให้กับคนดู แต่สุดท้ายหนังกลับไปไม่ถึงฝัน เพราะการที่หนังพยายามยัดเรื่องราว และ ประเด็นต่างๆมากเกินไป มันจึงไปไม่สุดสักทาง ยังมีดีแค่ตรงที่ว่า คู่พระนาง และ การดำเนินเรื่อง ยังพอถูไถให้คนดูไม่บิดเมื่อยไปได้บ้างครับ
โดยรูปรอยและรูปลักษณ์ Salmon Fishing in the Yemen ไม่ได้เหมือนเสียทีเดียวกับ Local Hero(1983) อย่างที่ The Hunger Game ออกมาจากหล่อเดียวกับ Battle Royal แต่ถึงกระนั้น ก็จับได้อยู่ดีว่าตัวพล็อตเรื่อง เดินหน้าเต็มกำลังในการที่จะเน้นการสร้างอารมณ์ feel good ให้แก่คนดู ถึง “เสียฟอร์ม” ออกตัวรุนแรงในพรินท์แอดว่า นี่คือหนังในแบบ super feel good (อันเสียมารยาท ในการไปเชพแง่มุมนี้ให้แก่คนดู)
ผมว่าตัวหนังมีแต้มต่ออยู่ในระยะโปรโมทที่การใช้ชื่อ Salmon Fishing in the Yemen ซึ่งแต่ชื่อ ก็ทำให้คนดูกลุ่มหนึ่งน่าจะอ่อนไหวกับอะไรแบบนี้ และก็ต้องยอมรับด้วยว่า ชื่อหนังมีผลต่อการดู เพราะถ้าหนังชื่อ Fish หรือ House มันก็คงไม่สามารถสร้างแรงจูงใจได้
อันที่จริง ถ้าจะว่าไป ในชีวิตคนเรา อย่างน้อยต้องมีสักครั้ง ที่เดินทางไกลหรือใก้ลและได้พบเรื่องราวดีๆ ในแบบหนังเรื่องนี้ เพื่อนผมคนหนึ่ง พาแม่ไปหาหมอเพื่อรักษาแม่ พอออกจากโรงพยาบาล หมอก็บอกว่า เขาเป็นแฟนงานเขียนของลูกชาย อีกเรื่องหนึ่งก็เคยเจอก็คือ
รีวิว Salmon Fishing in the Yemen
นักศึกษาแพทย์ต้องไปฝึกงานที่ลำปาง โดยก่อนไป ก็ล่ำลาทุกคนล่วงหน้าว่า จะไปเรียนต่อหมอที่ อเมริกา (เพื่อนผมเอง) แต่หลังจากครบเทอมการฝึกงาน เขาเปลี่ยนใจ ที่จะไปอยู่ที่นั่นถาวร เพราะไปพบว่า ในหมู่บ้านที่ไปอยู่สั้นๆ ไม่มีหมอและขาดคนที่จะนำพาสิ่งดีๆ ตอนนี้เพื่อนคนนี้ก็ยังอยู่ที่นั่น และลืมเรื่องอะไรที่อังกฤษหมดแล้ว ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ในชีวิตคนเรา มันจึงมีเรื่องในแบบที่ “โจนส์”(ยวน แมคเกรเกอร์) ได้เจอ เพราะเขาถูกเจ้านายสั่งให้ไปทำโครงการเอาปลาแซลมอน 10,000 ตัวไปว่ายในน้ำที่เยเมน เพราะมหาเศรษฐีที่นั่นต้องการ และที่สำคัญ สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำก็คือ การตลาด ที่จะสร้างภาพให้ผู้คนลืมสงครามในตะวันออกกลางหาเรื่องดีๆ จัดสร้าง มากลบเกลื่อนเรื่องแย่ๆ
โจนส์นั้นต้องทำงานร่วมกับ แฮเรียต (เอมิลี บลันท์) สาวที่หัวใจรักอิสระและเพิ่งห่างกับแฟนหนุ่มที่ไปรบในสงคราม พล็อตผูกมาแค่นี้ ก็เผยให้เห็นว่า ยังไงตัวละครสองคนคือ โจนส์กับ แฮเรียต ต้องมีใจอ่อนไหวต่อกัน และผ่านเรื่องราวบางอย่างด้วยกันในโปรเจกท์สำคัญ กับปลา “แซลมอน”
จริงๆ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องที่ง่ายมาก เขาต้องการเปรียบเทียบว่า มนุษย์เรานั้นมีหลายแบบ แต่มีอยู่แบบหนึ่งที่ควรจะเหมือนวิถีของ “ปลาแซลมอน” นั่นคือ การ “ว่ายทวนน้ำ” ซึ่งการว่ายทวนน้ำ ไม่ใช่ความหมายของการต่อต้าน หรือแอนตี้ แต่เป็นการแสดงธรรมชาติออกมา แม้มันจะไม่เหมือนกับปลาตัวอื่นๆ ในหนัง หรือคนทั่วไปก็ตาม
ข้อดีของหนังเรื่องนี้ มีอยู่สองอย่างประการแรก นี่คือหนังที่มีการใช้ภาษาอังกฤษที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ดีจนเกือบเทียบเท่างานอย่าง four weddings and a funeral เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว การใช้ภาษา เต็มไปด้วยความหมายแรกและสิ่งที่เรียกว่า sub-text เมื่อบวกรวมกับนัยของหนังที่เกี่ยวกับปลาและวิถีของปลามันทำให้ Salmon Fishing in the Yemen มีความงดงามอยู่ในระดับหนึ่ง
แต่ทันทีที่หนังผ่านครึ่งทางของมันเอง การเขียนบทกลับ “เข้ารกเข้าพง” โครงสร้างของหนังบีบให้ตัวละคร เดินไปตามแบบแผนที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ จู่ๆ คนรักเก่าก็กลับมา จู่ๆ ปลาแซลมอนก็กระโดดเหนือน้ำทั้งที่มันเหมือนจะพินาศไปหมด และจู่ๆ แฮเรียต ก็เลือก โจนส์ โดยมีคนรักเก่าส่งเสียง เปิดทางไว้ล่วงหน้า การทำให้หนังจบง่ายแบบนั้น ทำลายหลายอย่างแบบที่บ่อปลาเลี้ยงของแซลมอนถูกทำลาย คนดูไม่เชื่อในสิ่งที่หนังเลือก เป็นการหาที่ลงของเรื่องอย่างมักง่าย
และแทนที่ Salmon Fishing in the Yemen จะเดินทางไปเป็นหนังที่น่าจดจำ มันก็กลายเป็นหนังเน่าตามสูตรของพวกที่ออกตัวว่าเป็น super feel good ทั้งหลาย ข้อแตกต่างที่ทำให้ Salmon Fishing in the Yemen ไม่สามารถเป็น local hero ได้ก็คือ ขณะที่เรื่องแรก ปล่อยให้คนดูเลือกชื่นชม สิ่งที่ตัวละครทำอย่างน่าจะเป็นเรื่องนี้กลับบีบให้คนดูเห็น สิ่งที่บทบล็อกเอาไว้มาตลอด สปอยหนังใหม่