รีวิว the divine fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง
สำหรับใครที่กำลังว่าง ๆ ไม่มีอะไรดดู ตอนนี้ ผมเอง มีหนังเรื่อง มือนรก พระเจ้าคลั่ง ส ปอย หนัง มาแนะนำครับ หลังจากได้รับชมผมก็แอบมีใจ คิดว่าว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังน้ำดีอีกหนึ่งเรื่องเลย หนังNetflix เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมภาพยนตร์เกาหลีที่ผมให้ความสนใจ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ตั้งแต่ที่ได้รับรู้ถึงตัวตนของมันครั้งแรก แม้เอาจริง ๆ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ จะรู้สึกว่าดูเทรลเลอร์แล้วไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ทว่ากับหนังเกาหลีฉาบความแฟนตาซีเรื่องล่าสุดที่ได้ดูอย่าง Along with the god ทั้ง 1 และ 2 ก็ค่อนข้างประทับใจพลางรู้สึกว่าหนังแฟนตาซีสัญชตินี้ค่อนข้างมีของพอสมควร
ชื่อเรื่อง : The Divine Fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง
แนว : สยองขวัญ , ลุ้นระทึก , แอ็คชั่น
ระบบเสียง : พากย์ไทย และ ซับไทย
วันที่ฉาย : 31 กรกฎาคม 2019
ช่องทางการรับชม : Netflix
ผู้กำกับ : เจสัน คิม
คะแนน : 6.5/10
รีวิว the divine fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง
รีวิว the divine fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง เจสัน คิม หรือ คิม จูฮวาน (Kim Joo-hwan) ผู้กำกับที่มีผลงาน มือนรกพระเจ้าคลั่ง 2 มาเมื่อไหร่ คุ้นหูแฟนหนังเกาหลีชาวไทยอย่าง Midnight Runners (2017) ได้กลับมาลองเปลี่ยนแนวจากหนังแอ็กชันกวน ๆ มาสู่หนังแอ๊กชันเหนือธรรมชาติที่ว่าด้วยภูติผีปีศาจกับบาทหลวงในสไตล์ The Exorcist ผสมความดาร์กโมเดิร์นเท่ ๆ แบบ Constantine และ แอ็กชันซัดพลังหมัดที่ชวนให้นึกถึงบางส่วนของ Iron Fist อยู่เหมือนกัน
โดยยังได้ดึงดาราหนุ่มกระแสแรงที่เพิ่งมีผลงานดังในบ้านเราจากการเล่นบทสมทบ (เพื่อนของลูกชายคนโต) ในเรื่อง Parasite และ เป็นที่รู้จักของแฟนเกาหลีในบ้านเราจากซีรีส์ What’s Wrong With Secretary KIM อย่าง พัค ซอจุน (Park Seo-joon) มารับบทนำ แล้วก็เอาดารานำตัวหลักที่เล่นเป็นลูกชายคนโตจากเรื่อง Parasite อย่าง ชอย วูซิก (Choi Woo-sik) มารับบทสมทบแทน เออสับหน้าที่กันตลกดี นอกจากนี้ยังได้ทีมเอฟเฟกต์ชั้นแนวหน้าของเกาหลีจากหนัง Along with the Gods มาดูแลความสมจริงด้วย คือทีมงานคัดสรรมาแล้วจริง ๆ
นอกจากนี้หนังยังได้ดารารุ่นใหญ่ เจ้าของ 2 รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมของเกาหลีอย่าง อัน ซึงกิ (Ahn Sung-Ki) มารับบทสมทบสำคัญในฐานะบาทหลวงที่เป็นเหมือนอาจารย์ของพระเอก ในฟากตัวร้ายก็ไม่น้อยหน้าได้เจ้าของรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง Mad Dog และ เป็นที่รู้จักของแฟนชาวไทยจากซีรีส์ Great Seducer อย่าง อู โดฮวาน (Woo Do-Hwan) มารับบทบิชอปดำผู้รับใช้จอมปีศาจร้ายแห่งขุมนรกด้วย
เนื้อเรื่องจะโฟกัสที่พระเอก พาร์ค ยงฮุน แชมป์โลก MMA รุ่นเวลเตอร์เวทผู้มีเชิงมวยดุดัน แต่ในอดีตเขาเคยสูญเสียพ่อไปสมัยเด็ก ๆ เขาซึ่งเคยเป็นคนเคร่งในศาสนาคริสต์จึงตั้งคำถามต่อความเชื่อที่ฝังหัวตัวเองว่าเหตุใดพระเจ้าจึงไม่ช่วยคนดี ๆ อย่างพ่อเขา และ กลายเป็นต่อต้านตั้งแต่นั้น
กระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับบาทแผลบริเวณฝ่ามือพร้อมพลังบางอย่างที่เหนือมนุษย์ ซึ่งเขาคงทำใจรับมันได้มากกว่านี้หากไม่ได้มีบาทหลวงดันมาบอกว่ามันคือพลังจากพระเจ้าที่มอบให้เขากำราบปีศาจ
ซึ่งเอาจริง ๆ ผมคิดว่า The Divine Fury มีความเป็นการ์ตูนผู้ชายอยู่สูง ตัวเอกกับพลังที่ไม่อยากยอมรับกับการก้าวข้ามความขัดแย้งในตัวเองเพื่อกลายเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ส่วนเนื้อเรื่องแก่นหลักก็ไม่ได้ซับซ้อนนัก แต่อาศัยการค่อย ๆ บิวต์อารมณ์คนดูตลอดเรื่องเพื่อไปจบในซีเควนซ์ท้าย ๆ เสริมด้วยประเด็นการพูดถึงความศรัทธาประมาณหนึ่งเพื่อเคลัยร์ใจทางให้เนื้อเรื่อง
เรื่องย่อ/เนื้อหา
The Divine Fury ว่าด้วยเรื่องของ “ยงฮู” (รับบทโดย พัค ซอจุน) สุดยอดนักสู้ของโลกผู้ไร้ศรัทธาในเทพองค์ใดนอกจากตัวเอง จู่ ๆ เขากลับมีแผลเป็นที่ฝ่ามือเหมือนพระเยซู เขาจึงไปพบบาทหลวงเพื่อหวังจะรักษาแผลเป็น
แต่กลายเป็นว่าตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายช่วย “บาทหลวงอัน” (รับบทโดย อัน ซึงกิ)ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการไล่ผีแทน ยงฮู เริ่มเรียนรู้พลังพิเศษที่เขาได้รับจากแผลเป็นบนฝ่ามือนี้ เพื่อช่วยคนบริสุทธิ์ที่ถูกวิญญาณร้ายเล่นงาน แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ของเขาคือ “จอมมารจีชิน” (รับบทโดย จีชิน) ที่หวังครอบงำจิตใจมนุษย์ด้วยความชั่วร้ายไปตลอดกาล
ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ
ในส่วนของบทความรู้สึกส่วนตัวของผมมองว่าเฉย ๆ เอื่อยไปด้วย มือนรกพระเจ้าคลั่ง 2 pantip ละก็อิงศาสนาแบบสุดโต่ง ตัวละครตัดสินใจด้วยความเชื่อ และ สัญชาติญาณล้วน ๆ ผมเลยไม่ค่อยชอบส่วนนี้เท่าไหร่ แต่บางคนอาจจะชอบก็ได้ ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ในส่วนนี้ก็ทำได้ธรรมดาทั่วไป ส่วนตัวผมมองว่าเล่าเรื่องแปลก ๆ มันดูน่าจะเป็นซีรีส์มากกว่าเป็นหนัง แต่ก็ไม่ได้แย่นะ ทำออกมาได้ดีเลย
ต่อมาด้านการแสดง ส่วนนี้ถือเป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้เลย นักแสดงแบกมาก พัคซอจุน เล่นได้ดีแทบจะแบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ดีเลย แม้จะดูเวอร์ ๆ แต่ก็เท่ห์ดี ส่วน อัน ซองกิ ที่รับบทเปฺนบาทหลวง และ อู โดฮวาน ที่รับบทเป็นจอมมาร ก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป โดยรวมแล้วทุกคนทำได้ดี
สุดท้ายด้านงานภาพ และ การโปรดักชั่น เริ่มที่งานภาพก่อน งานภาพเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลย ถ่ายสวย มุมกล้องดี แถมโทนสีที่เลือกใช้ก็เลือกได้ดี เหมาะกับธีม และ บรรยากาศของเนื้อเรื่อง
ต่อมาด้านการโปรดักชั่นรวมถึงฉากแอ็คชั่นต่าง ๆ งานโปรดักชั่นถือว่าทำได้ดีเลย ซีจีก็ดีอยู่ในระดับนึง แต่จะยังมีลอย ๆ อยู่บ้างไม่ถึงกับดีมาก ฉากแอ็คชั่นทั้งหมดในเรื่องก็ทำออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตามมาตรฐานหนังแอ็คชั่นทั่วไป ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วนให้ภาพรวมของหนังมันออกมาสนุก และ สามารถมอบความบันเทิงให้กับผู้ชมได้
รีวิว the divine fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง
รีวิวthe divine fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง ส่วนที่ต้องชื่นชมอย่างมากเลยคือ มือนรกพระเจ้าคลั่ง มีกี่ภาค การนำชั้นเชิงเรื่องดราม่าที่เอกอุของหนังเกาหลี มาผสมผสานใส่แนวหนังไล่ผีของฝรั่งได้อย่างน่าสนใจ เพิ่มมิติการเล่าเรื่องได้แปลกรสที่กำลังเบื่อเลี่ยนได้พอดิบพอดี ถ้าหนังฝรั่งเราก็คงมีตัวเอกที่ไม่ศรัทธาในพระเจ้า แต่ต้องรับบททดสอบด้วยการเผชิญหน้าปีศาจที่เข้าสิงผู้บริสุทธิ์ แล้วสุดท้ายก็เกิดเชื่อมั่นศรัทธาแล้วก็เอาชนะไปได้ง่าย ๆ เป็นอันจบ
เป็นแนวคุ้นเคยดีจากหนังตระกูลนี้ แต่กับหนังเกาหลีเรื่องนี้ได้สร้างบันไดแห่งการพิสูจน์ตัวละครที่ละเอียดกว่า ดูน่าเชื่อกว่า พระเอกไม่ได้อยู่ ๆ จะมาเชื่ออย่างปุ่บปั่บได้ เอาว่ากันตรง ๆ แล้วจนจบเรื่องเขาก็ยังพูดว่าเขาไม่ได้ศรัทธาในพระเจ้าอยู่ดีด้วยซ้ำ และ เส้นทางการเรียนรู้ของตัวเอกก็ไม่ได้เรียบราบจนไร้สติ
หากแต่เป็นการเรียนรู้ที่ค่อย ๆ มีพัฒนาการโดยคงลักษณะนิสัยที่เป็นเสน่ห์ของพระเอกที่นิ่งกวนเล็ก ๆ และ เหมือนมีคำถามขัดแย้งกับศาสนาอยู่ตลอดเวลาให้คนดูชวนคิดตามด้วย และ บาทหลวงเฒ่าก็เก่งในการสอนด้วยสิ หนังเลยมีโมเมนต์ดี ๆ อยู่ตลอด
ตรงนี้เป็นการสร้างความขัดแย้งที่น่าจับตามองตลอด ของการแสดงคู่กันระหว่างคู่หูต่างรุ่น อย่างพระเอกกับบาทหลวงสูงวัย ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่าการแสดงของ อัน ซึงกิ นั้นชูชงให้บทบาทของ พัค ซอจุน ยิ่งดูเข้มข้นขึ้นมาก ทั้งเรายังไม่อาจละสายตาจากการเล่นน้อยแต่สะกดของทั้งคู่ได้เลย บ่อยครั้งเป็นเพียงการเล่นด้วยการกะพริบตา แต่สื่ออารมณ์ได้หลากหลาย
แม้แต่บทสมทบเล็ก ๆ ของ ชอย วูซิก เอง เราก็จะได้เห็นว่าเขามีฉากโชว์ของตัวเองที่น่าสนใจเช่นกัน คือเป็นเครื่องยืนยันว่าบท การกำกับ และ การแสดงของหนังเรื่องนี้ คือเครื่องเทศรสใหม่ ที่ทำให้หนังแนวนี้แตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญจริง ๆ
บทสรุป
โดยรวม ๆ ก็ถือว่าสอบผ่านสนุกสนานไม่น้อย มือนรกพระเจ้าคลั่ง pantip แถมยังปูทางให้มีภาคต่อกับสปินออฟเป็นมาร์เวลอีกต่างหาก อย่างไรก็ดีข้อเสียของหนังคือความพยายามจะเป็นหลายอย่างทำให้ไม่สุดสักทางไม่ว่าจะด้านดึงดราม่า ความน่ากลัว
หรือกระทั่งฉากบู๊ที่อยู่ในระดับ “เกือบดี” เท่านั้น เพราะเอาตรง ๆ ค่อนข้างคาดหวังการต่อสู้ในองค์สุดท้ายพอสมควร นอกจากนี้ยังเดินเรืองอืดอาดในบางช่วงจนชวนให้หาวอยู่ไม่น้อย ซึ่งหากภาคถัดไปแก้ตรงนี้ได้ก็จะเยี่ยมมาก