รีวิว werewolf by night
นี่เป็นหนังสั้น จาก marvel ที่ปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อยเรา Werewolf by Night’ เป็นหนังยาวขนาดสั้น หนังDiseny หรือหนังสั้นขนาดยาวก็ได้ ด้วยความยาว 52 นาทีมันก้ำกึ่งและ ถ้าบอกว่ามันเป็นตอนไพลอตสำหรับซีรีส์ที่ไม่ได้สร้างก็ยังดูเข้าเค้าพอสมควร ส ปอย หนัง เมื่อพิจารณาจากโปรดักชันของมัน มนุษย์หมาป่า เป็นตำนานอสุรกายที่เก่าแก่และยังคงร่วมสมัยมากสุดเรื่องหนึ่ง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ควบคู่มากับคู่ปรับอย่างแวมไพร์มาโดยตลอด ด้วยพลังมหาศาลและรูปลักษณ์ที่น่าหวาดกลัว ขณะเดียวกันก็ดูเท่และน่าหลงใหลไม่น้อย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ นอกจากนั้นยังมีมุมของคำสาปที่เลือกไม่ได้อันแฝงแง่มุมดราม่าให้เล่นได้อีกด้วย มนุษย์หมาป่าจึงเป็นต้นทุนในงานสื่อแขนงต่าง ๆ มาเสมอ
เช่นเดียวกันในจักรวาลมาร์เวลมนุษย์หมาป่าก็ถูกนำมาเป็นซูเปอร์ฮีโรตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน โดยมีนามว่า แจ็ก รัสเซลล์ (Jack Russell) หรือ แวร์วูล์ฟ (Werewolf) ทั้งนี้ที่มาของพลังกลายร่างของเขาในฉบับคอมิกนั้น เป็นคำสาปที่เชื่อมโยงมาจากคัมภีร์ดาร์กโฮลด์ ซึ่งในจักรวาลหนังได้ปรากฏในเรื่องราวของวันดาทั้งในซีรีส์และหนังมาก่อนแล้ว และเขายังเป็นคู่ปรับที่น่าจดจำของอัศวินรัตติกาลจนลือว่าเกือบเคยไปโผล่ในซีรีส์ ‘Moon Knight’ (2021) มาแล้ว จะนับว่าเป็นหนึ่งในการขยายความออกไปจากเรื่องราวของจักรวาลเวทมนตร์ในหนังมาร์เวลก่อนนี้ก็ได้
รีวิว werewolf by night
รีวิว werewolf by night ภาพยนตร์ความยาว 52 นาที เรื่อง Werewolf by Night (2022) หรือในชื่อไทยว่า “คืนหอน อสูรโหด” เป็นรายการ Werewolf by Night MCU พิเศษต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนของ Disney+ กำกับโดย Michael Giacchino เขียนบทโดย Heather Quin และ Peter Cameron ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Jack Russell หรือ Werewolf by Night ของ Marvel Comics จากสร้างสรรค์ของ Gerry Conway เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแฟรนไชส์ Marvel Cinematic Universe (MCU) ของ Marvel Studios
เพราะเอาเข้าจริงแล้วผู้กำกับ ไมเคิล จิอักชิโน (Michael Giacchino) ที่มีผลงานเด่นด้านทำดนตรี (composer) ให้หนังใหญ่มากมายก็ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวในการกำกับหนังมาเท่าใดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสยองขวัญยิ่งห่างไกลพอควรด้วย อาจเรียกได้ว่าถ้าตัดภาพขาวดำที่ช่วยคุมโทนสยองแบบโกธิก เสียงดนตรีโหมใส่ที่เขาบรรจงทำได้อย่างดี และหน้าหนังที่ว่าบูชาหนังอสุรกายคลาสสิกทั้งหลาย
ถือเป็นเปลือกนอกของหนังออกไป เนื้อในของมันก็แทบไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าหนังสยองขวัญอย่างที่ควรเป็นเลย ถึงขนาดว่าถ้ามันคือหนังบูชาหนังสยองขวัญมันก็เป็นคำดูถูกเสียมากกว่าสรรเสริญ เพราะมันหยิบมาแค่เปลือกเปล่าแต่ขาดหัวใจของความสยองขวัญอย่างสิ้นเชิง
การดำเนินเรื่อง
Werewolf By Night เป็นผลงานภาคพิเศษในช่วงเทศกาลฮาโลวีนจาก มาร์เวล สตูดิโอ ทีถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่านักล่าปีศาจได้มารวมตัวกันเพราะการตายของหัวหน้า พร้อมกับถูกบังคับให้เข้าร่วมในการแข่งขันสุดแสนอันตราย เพื่อช่วงชิงวัตถุโบราณอันทรงพลานุภาพ ซึ่งก็คือ บลัดสโตน
เอาจริง ๆ บอกแบบตรงไปตรงมาสุด ๆ นี่ก็คือ ‘เกมล่าเกม’ อีกชนิดหนึ่งนั้นแหละ โครงเรื่องได้ถูกออกแบบมาเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ใส่โทนและบรรยากาศความวังเวงชวนหลอนเข้าไปในท้องเรื่อง ผนวกเข้ากับเกมล่ากันเองแบบสยดสยองติดเรตนิดหน่อย ใส่ตัวละครนักล่าในคอมมิกเข้าไปเป็นสีสัน มีฉากบู๊เอาตัวรอดแบบมันส์ ๆ หนังมีอยู่แค่นั้นเลย แต่คอหนังสยองแบบนี้น่าจะเพลินดี
ความรู้สึกหลังรับชม
อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์คืออสูรแห่งหนองน้ำ Man-Thing หรือ Werewolf by Night Marvel Ted (รับบทโดย Carey Jones ให้เสียงโดย Jeffrey Ford) ที่โผล่มาให้เราตกใจ และ ตกใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าเขามีบางมุมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และ การปรากฏตัวของเขาก็ช่วยลบคำสบประมาทที่ว่ามาตรฐาน CGI ของ Marvel Studios ต่ำลงเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
Werewolf By Night อาจจะไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่กระนั้นการแสดงของ “กาเอล การ์เซีย เบร์นัล” กับ “ลอร่า ดอนเนลลี” ก็นับว่าเป็นคู่หูบนจอที่เข้ากันได้อย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่าผู้ชมจะยังไม่สามารถคลุกคลี และ ดื่มด่ำไปกับตัวละครของพวกเขาสักเท่าไหร่ เพราะเวลาอันมีอย่างจำกัดของหนังเรื่องนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการปูทางออกมาได้ดี
ส่วนที่ผมชอบที่สุดคือการออกแบบ Werewolf ของ Jack Russell (รับบทโดย Gael García Bernal) ที่ให้อารมณ์เหมือนตัวละครในหนังสยองขวัญยุค 30’s เขาไม่ใช่หมาป่าที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน แต่เป็นคนที่มีขน และ เขี้ยวงอกออกมา ซึ่งชุดมนุษย์หมาป่าน่าจะสร้างออกมาจริง ๆ แทนการใช้ CGI เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการถ่ายทำแบบดั้งเดิมของหนังยุคเก่า ดนตรีประกอบ และ การจัดแสงเงาก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมน่าประทับใจ
รีวิว werewolf by night
รีวิวwerewolf by night หนังสยองขวัญจากมาร์เวลแบบ Laura Donnelly สเปเชียลพิเศษต้อนรับฮาโลวีนลงสตรีมมิ่ง Disney+โดยเฉพาะ ด้วยเวลาสั้นแค่ 52 นาที โดยสร้างจาก Comic เก่าของมาร์เวลเองในชื่อเดียวกัน เรื่องราวของมนุษย์หมาป่าที่แฝงตัวมาในคืนที่เหล่านักล่าปีศาจมารวมตัวกันเพื่อชิงบลัดสโตนผ่านเกมล่าปีศาจ แต่จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เจ้าสิ่งนี้ แต่เป็นบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในการแข่งขันนั้นอีกที
ตัวหนังมีความพิเศษตรงที่พยายามย้อนยุคทำเป็นหนังขาวดำ ให้เหมือนอารมร์หนังสยองขวัญคลาสสิคเก่า ๆ ที่มนุษย์หมาป่าก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย และ ก็อาจจะเพราะทุนสร้างที่ไม่มากด้วย การทำเป็นขาวดำที่เน้นใช้เมคอัพกับหุ่นสัตว์ประหลาด พึ่งพา CG น้อยมาก ๆ ตามความต้องการของผู้สร้าง
Michael Giacchino ก็ช่วยปิดบังรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดี แต่ก็ทำให้ตัวหนังดูยากไปด้วยเช่นกัน แต่ก้ต้องนับว่าพวกหุ่นเมคอัพต่าง ๆ ของเรื่องถือว่าผ่านเลย เหมือนเป็นการอัพเกรดหนังสยองขวัญคลาสสิคเก่า ๆ ในมือของผู้สร้างปัจจุบันที่ทันสมัยกว่าได้ดีทีเดียว
แต่ที่น่าประหลาดใจไม่น้อย กับชื่อผู้สร้างหนังเรื่องนี้ เพราะเขาคือ “ไมเคิล จิอัคชิโน” คอมโพสเซอร์ชื่อดังที่มักจะประพันธ์เพลงประกอบให้กับหนังดังมากมาย และ ครั้งนี้เขากลายมาเป็นผู้กำกับหนังเป็นครั้งแรก และ ยังเป็นหนังมาร์เวลอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่โปรเจกต์พิเศษ และ ไม่ใช่หนังเต็มเรื่องก็ตาม แต่ก็ถือว่าเขาค่อนข้างมีฝีมือในการทำงานอยู่เหมือนกัน
การที่ Werewolf By Night เป็นหนังที่ใช้โทนสีขาว-ดำมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการเล่าเรื่องนั้น ก็ถือว่าเป็นกิมมิกที่เข้าใจได้ เพราะหนังอยากจะสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับหนังสยองขวัญยุคเก่า ๆ แบบยุคหนังเงียบ และ หนังขาว-ดำอะไรทำนอง และ แน่นอนว่าผู้กำกับมือใหม่ต้องมาทำงานเรื่องแรกเป็นหนังขาว-ดำเลย ช่างท้าทายยิ่งนัก และ ถือว่าเขาก็จัดองค์ประกอบต่าง ๆ ในรูปแบบหนังไม่มีสีได้ค่อนข้างน่าพอใจ
บทสรุป
หนังได้รับการจัดเรตที่ TV-14 ดังนั้นคนที่คาดหวัง Werewolf by Night Disney Plus ความน่ากลัวอาจต้องผิดหวัง แม้จะมีฉากเลือดสาดแต่หน้าจอที่เป็นสีขาวดำก็ช่วยลดความสยองจากสีแดงสดของเลือด ถ้าให้พูดตามตรงคงต้องบอกว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่หวังไว้ อาจจะน่ารักนิด ๆ ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาโดยรวมก็ยังสนุกอยู่ ด้วยความที่ตัวละครหลักมีน้อย และ สถานที่ในเรื่องก็ไม่กว้าง การดำเนินเรื่องจึงกระชับ และ จบอย่างรวดเร็ว
สรุปแล้วเป็นหนังมาร์เวลที่ดูเพลินอีกเรื่องหนึ่ง และ คงเหมาะกับแฟน ๆ ที่อยากจะหาการขยายต่อเชื่อมโยงเรื่องราวจากเรื่องราวเวทมนตร์ และ มัลติเวิร์สที่ปูมาก่อนหน้านี้เสียมากกว่าจะดูเพื่อหาความเคารพในงานสยองขวัญคลาสสิกอย่างที่พยายามขายหน้าหนังมาก่อนนี้ ซึ่งอาจด้วยเวลาที่ไม่อาจจัดได้ว่ามากหรือน้อย กับเนื้อหาที่ไม่แน่ใจว่าอยากจบในตัวหรือต้องการส่วนขยายอีกกันแน่ ก็ชวนสับสนเหมือนกัน