รีวิว the revenant
หนังNetflix สวัสดีครับหากพูดถึงหนังภาพยนตร์ที่เรียลๆคงอดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดชีวิตของคนในยุค 80 เชื่อว่าหลายๆคนคงอดใจรออยู่หลายวัน ในที่สุดก็ได้ดูหนังเรื่องนี้เสียที แถมยังสมใจเมื่อได้รับชมผ่านจอหนังใหญ่ ๆ อย่าง IMAX รัชโยธิน กับหนังตัวเต็งเข้าชิงตุ๊กตาทองออสการ์มากที่สุดถึง 12 รางวัลด้วยกัน (รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, แสดงนำชายยอดเยี่ยม, แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) คงเป็นหนังที่ใครหลาย ๆ คนอยากจะได้ชมในโรง ก็ไม่ใช่เรื่องไหนหรอก ‘The Revenant’ ผลงานจากผู้กำกับคนเดิมที่เคยสร้างสรรค์ ‘Birdman’ ให้ลือลั่นทั่วทั้งเวทีอะคาเดมี่อะวอร์ดส์ไปเมื่อปีก่อน เขาก็คือ Alejandro González Iñárritu (อเลฮังโดร จี. อินาร์ริตู) คนนี้นี่เอง ที่ปีนี้พาตัวเองและผลงานไปกระฉ่อนเวทีเดิมอีกครั้ง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
ส ปอย หนัง “มันคือหนังดีที่ทุกคนต้องดู แต่อาจจะไม่ดูซ้ำหรือเอาแผ่นมาเก็บเพื่อเปิดดูเวลาว่าง ๆ เพื่อเอาสนุก นอกจากว่าจะตั้งใจหยิบกลับมาดูจริง ๆ หรือคงดูเพราะเคเบิ้ลทีวีฉายพอดีก็เลยดู ให้ความรู้สึกผวังเดียวกันกับหนังอย่าง Saving Private Ryan ในบรรยากาศฉากหลังอันหนาวเหน็บสุดขั้วแบบ The Grey” ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ชื่อเรื่อง เดอะ เรเวแนนท์ ต้องรอด (The Revenant)
ประเภท ดราม่า / ผจญภัย
ผู้กำกับ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาริตู
นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ, ทอม ฮาร์ดี, ดอมเนลล์ กลีสัน, วิลล์ พัลเตอร์, ฟอร์เรสท์ กู้ดลัก
ความยาว 149 นาที
รีวิว the revenant
รีวิว the revenant The Revenant เล่าเรื่องเมื่อปี 1823 สมัยที่พวกยุโรปเพิ่งบุกอเมริกาไม่นาน สร้างสงครามกับชาวอินเดียนแดงท้องถิ่น รุกรานที่อยู่ที่กินของเผ่าหลายเผ่า จนเกิดการต่อสู้กันภายในประเทศอันยิ่งใหญ่นี้ มี Huge Glass เป็นคนนำทางในป่าที่เชี่ยวชาญเส้นทางพอที่จะดูแลกลุ่มทหารหรือพ่อค้าที่สนใจจะเข้าไปตักตวงทรัพยากรในป่าในเขาออกมาทำเงินตามใบสั่งนายทุน รับบทโดยลีโอตัวเหม็นเป็นตัวละครหลัก
เรื่องย่อ
ย้อนไปไกลในสมัยที่คนขาวยังไม่ได้ยึดพื้นที่อเมริกาอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าผู้มาใหม่ หรือผู้ที่จับจองอยู่แต่เดิม ต่างก็ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่ออยู่รอดบนแผ่นดินแห่งนั้น คนขาวคือผู้มาใหม่ที่เฝ้าจับจองและตักตวงผลประโยชน์จากแผ่นดินใหม่ แต่ก็ใช่จะทำได้โดยง่ายเมื่อผู้จับจองเจ้าของเดิมก็ไล่ล่าพวกเขาอยู่เช่นกัน
ความขัดแย้งที่มีเรื่อยมาทำให้โลกของพวกเขาไม่ง่าย และมีคนล้มหายตายจากไปเรื่อย ๆ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้นกับ ฮิวจ์ แกลส (Leonardo DiCaprio) เขาถูกหมีกรีสลีโจมตีจนบอบช้ำหนักปางตาย ในที่สุด เขาก็โดนเพื่อนร่วมทีมอย่าง จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ (Tom Hardy) ทิ้งไว้กลางป่า แถมยังฆ่าลูกชายตายไปต่อหน้าเสียอีก ไฟแค้นสุมอกเหตุการณ์ที่เหลือของเรื่องราวคือการเดินทางกลางป่าเพื่อกลับมาแก้แค้น.. กลางภูมิอากาศที่โหดร้ายหนาวสุดขั้ว
ท่ามกลางหมู่มวลศัตรูที่ลอบทำร้ายได้ตลอดเวลา เขา “ต้องรอด” สถานเดียวเพื่อทำภารกิจเดียวนี้ให้สำเร็จ The Revenant (2015)
ความรู้สึกหลังรับชม
The Revenant เป็นหนังที่มีข้อดีที่น่ายกย่องมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเยอะเหมือนกัน มันเป็นหนังที่ต้องอาศัยความอดทนในการรับชมค่อนข้างมาก ตามสไตล์ ผกก. Alejandro González Iñárritu ที่มือขึ้นเมื่อปีก่อนจากเรื่อง Birdman (2014) หนังดีที่เราไม่ชอบอีกเรื่องนึงของ ผกก. คนนี้
งานภาพของ The Revenant สวยงามมาก ๆ แสงธรรมชาติในฤดูหนาวนั้น เป็นอะไรที่ถ่ายภาพยากมาก ๆ มันมีแต่สีขาวโพลนไปหมด แต่หนังเรื่องนี้ใช้ความขาวโพลนนำเสนออารมณ์หนังได้ดีมาก ๆ ผกก เน้นย้ำว่าใช้แสงธรรมชาติล้วน ๆ เลยต้องยกรางวัลให้ Cinematographer ฝีมือเทพอย่าง Emmanuel Lebozki ไปเลยว่าทำงานออกมาได้เจ๋งจริง the revenant พากย์ไทย คมชัด
ดูแต่ภาพในหนังก็เลอค่ามากแล้ว เห็นว่าไปถ่ายกันหลายที่มาก ๆ ทั้ง USA Canada Argentina เราว่าไปดูงานภาพอย่างเดียวก็คุ้มละ แล้วการถ่ายฉากต่าง ๆ แบบ Longshot ก็ยังเป็น signature ของ ผกก. ที่ทำได้ดีงาม ทำให้รู้สึกเรียลลิตี้ดี
รีวิว the revenant
รีวิว the revenant หนังเล่าถึงการสำรวจป่าอเมริกาของนายพรานป่า ฮิวจ์ กลาส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) และเพื่อนร่วมทีมที่นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี้, ดอมนัล กลีสัน,วิล โพลเตอร์ ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างคนขาวกับชนเผ่าท้องถิ่ม กลาส ถูกจู่โจมโดยหมีร้าย ทำให้บาดเจ็บอย่างหนัก แต่แทนที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ (ทอม ฮาร์ดี้) จะให้ความช่วยเหลือ กลับพยายามทิ้งเขาไว้ให้ตาย เขามีเพียงกำลังใจเป็นอาวุธในการต่อสู้ และวิธีในการเอาชีวิตรอดแบบต่าง ๆ ที่คุณจะต้องทึ่งเนื้อหาหนังแทบจะดูเหมือนไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
สรุปจบได้สั้น ๆ แค่ว่า พระเอกไปเข้าป่าถูกหมีทำร้าย เพื่อนทิ้งให้ตาย แต่ก็รอด แล้วแก้ค้น จบ! แถมต้องบอกว่ามีบางจุดที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้หลายครั้งกับการรอดตายของเพราะเอก แต่ตัวหนังกลับแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจนกลบส่วนอื่น ๆ ไปได้หมด ต้องยกความดีให้นักแสดงอย่าง ลีโอนาโด ที่ต้องยอมรับว่าการแสดงของเขาเรื่องนี้ลึกซึ้งกินใจ
เรียกได้ว่าถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้จากทุกอณูในร่างกาย บางฉากที่ กลาส แค่ใช้สายตามองแต่กลับสื่ออารมณ์ให้คนดูเข้าใจได้มากกว่าบทพูดใด ๆ จะสังเกตได้ว่าหนังเรื่องนี้ ลีโอเนาโด มีบทพูดน้อยมาก ๆ ไม่เพียงเท่านั้น แม้ทั้งเรื่องเราอาจจะได้ยินแต่เสียงลมหายใจของตัวละคร แต่ทุกฉาก กลับแทรกซาวน์ที่พอเหมาะพอเจาะเป็นอย่างมาก การนำเสนอของ ผกก อเลฮังโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู นั้นดูเหมือนหลาย ๆ ฉากจะสื่อว่า ไม่มีผู้ใดมีพลังอำนาจเหนือผู้ใด
หลายฉากที่ผู้เหนือกว่ากลับต้องตายลงง่าย ๆ หากประมาท ตรงกันข้ามกับใจที่เข้มแข็งและแน่วแน่ ที่สามารถนำพาตนเองมาจากโลกแห่งความตายได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าคนที่กำลังลังเลว่าจะดู The Revenant เรื่องนี้ดีหรือไม่ บอกได้เลยว่าคุ้มค่า เอาเป็นว่าแค่ฉากเชือดเฉือนกันระหว่าง ลีโอนาโด กับ ทอม ฮาร์ดี้ (ซึ่งอีตานี่ก็กวนสุดๆ) และฉากที่พระเอกลุยกับหมียักษ์ ก็พีคสมจริง และคุ้มสุด ๆ กับการตีตั๋วไปดูแน่นอน The Revenant Netflix
บทสรุป
ใครดูเรื่องราวไม่อิน มาดูภาพวิวสวย ๆ นี่แหละคุ้มค่า หนังเขาภาพสวยมาก อาจจะเพราะโลเกชั่นพวกป่าเขาลำเนาไพรในแคนาดากับอาร์เจนตินาที่เขายกกองไปถ่ายมันสวยงามและยิ่งใหญ่ในตัวของมันเองอยู่แล้วด้วยแหละมั้ง ภาพมันออกมาอลังการงานสร้างจริงจัง
ดังนั้น เราแนะนำให้ดูในโรง IMAX หรือโรงจอใหญ่ ๆ จะได้สัมผัสธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างตื่นตาตื่นใจถ้าได้ดูแล้ว อยากให้ดูเทคนิคการถ่ายทำ แล้วจะสัมผัสได้ว่าหนังมันไม่น่าจะถ่ายกันได้ง่าย ๆ เลย สภาพอากาศที่ดูหนาวใช่หยอกนั่นก็เรื่องหนึ่ง แล้วยังมีถ่าย 360 องศาติ้ว ๆ มุมกล้องมีลูกเล่นแพรวพราวและเล่นท่ายากตลอดเวลามีแสงวิงค์ ๆ จากพระอาทิตย์แบบ magic hours อย่างที่พวกตากล้องฮิปสเตอร์เขาชอบด้วยนะ เกร๋ ๆ และไอ้ long take กับเสียงดนตรีอันเป็นกิมมิคจาก Birdman ก็ยังเอามาเล่นอยู่ด้วยนะเอออย่างไรก็ดี
ถึงแม้เราจะชมโปรดักชั่นว่ามันดีเว่อร์วังขนาดไหน แต่เราว่า The Revenant ก็ยังมีความน่าเบื่อในเรื่องของตัวบทและการเล่าเรื่องอยู่ สงสัยจะไปโฟกัสที่เทคนิคกับ Leonardo มากเกินไป จนละเลยความสำคัญของตัวบทนั่นแหละ โดยเฉพาะ ประเด็นเรื่องครอบครัว การล้างแค้นเพื่อลูก หรือแบ็คกราวนด์ชีวิตนั้น ไม่พีคอย่างที่ควรจะเป็น
โดยสรุป The Revenant รอดนะ ก็เลอค่าสมควรเข้าชิงหลายสาขาจริง ดูแล้วต้องขอกราบให้กับงานภาพ เสียง และเทคนิคต่าง ๆ ทั้งหลายแหล่ โปรดักชันดี หนังสวยมากกกก และคงธีมดิบเถื่อนแต่ต้นจนจบดี การแสดงของ Leonardo ก็ต้องยอมใจเขาเลยอะ คำว่า “ทะเยอทะยาน” คงเหมาะกับนางที่สุดละ ทุกอย่างมันชัดเจนอะว่านางกับผู้กำกับ “พยายาม” ไฟต์สุดชีวิต ยอมทำทุกอย่างและทุ่มหมดหน้าตักเพื่อออสการ์จริง ๆ The Revenant rotten tomatoes