รีวิวหนังnetflix เรื่อง A Boy Called Christmas

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิว หนังnetflix เรื่อง A Boy Called Christmas เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส ภาพยนต์ต้อนรับลมหนาว วันคริสต์มาสและปีใหม่ ดูได้แล้วแบบเต็มเรื่อง พากย์ไทย และซับไทย ที่นี้ ดูหนังมาใหม่ หรือถ้าใครที่ไม่มีเวลาดู ก็สามารถอ่านรีวิวหนังของเราได้แล้วที่นี้ วันนี้

A Boy Called Christmas เรื่องย่อ นิโคลัส เด็กชายธรรมดาคนหนึ่งออกเดินทางไปในการผจญภัยสุดพิเศษสู่ดินแดนหิมะทางเหนือเพื่อตามหาพ่อที่กำลังค้นหาหมู่บ้านในตำนานของเอลฟ์ที่มีชื่อว่าเอลฟ์เฮล์ม เขาออกเดินทางไปพร้อมกับกวางเรนเดียร์สุดดื้อรั้นที่ชื่อบลิทเซนและหนูแสนซื่อสัตย์ ในไม่ช้า นิโคลัสก็ได้เผชิญหน้ากับโชคชะตาของตัวเองในเรื่องราวที่ทั้งมหัศจรรย์ ตลก และน่ารักที่พิสูจน์ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

หนังดัดแปลงมาจากนิยายเด็กชื่อเดียวกันของ “แมตต์ เฮก” ที่เคยตีพิมพ์ไปเมื่อ 5-6 ปีก่อนและค่อนข้างประสบความสำเร็จไม่เบา โดยหนังได้ “กิล คีแนน” ผู้กำกับที่มีสไตล์ในการเล่าเรื่อง และ ผ่านงานสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับเยาวชนมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น City of Ember หรือ Monster House นั่นจึงเป็นข้อดีที่ทำให้เขารู้จักวิธีและทิศทางในการนำทางได้เป็นอย่างดี และรู้ว่าองค์ประกอบไหนควรใส่ไว้ตรงไหน

แต่ถึงกระนั้นจุดบกพร่องที่โดดเด่นก็คือบท และ การบรรยายของภาพยนตร์อาจทำให้ซ้ำซากไปบ้าง แม้ว่าภาพยนตร์จะพยายามบอกเล่าที่มาของลุงซานต้าในวันคริสต์มาสอีฟก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่หนังแฟนตาซีผจญภัย กับสัตว์พูดได้ธรรมดาๆ ที่เล่นไม่ออก นี่คือหนังที่มีปัญหาง่ายๆ เรื่องหนึ่ง และคำตอบทุกอย่างย่อยง่าย กลายเป็นหนังที่ดูง่ายจนลืมไม่ลง

ในแง่ของพล็อตหนังเรื่องนี้มีพล็อตที่น่าสนใจ ผจญภัย และดราม่า ไม่เป็นไร. แต่สิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์คือการเล่าเรื่อง ไม่ค่อยมีแรงติดตามเท่าไหร่ มาแบบช้าๆ เนิบๆ ไม่จัดมาก หรือประเด็นดราม่าที่มันควรจะมีแต่ไม่จบเหมือนกัน และด้วยความที่หนังเป็นแนวแฟนตาซีต้องบอกว่าในเรื่องไม่ค่อยมีอารมณ์แฟนตาซีมากนัก ตัวอย่างเช่น ฉากในหมู่บ้านเอลฟ์นั้นธรรมดามาก เหมือนบ้านบนภูเขาทั่วไปมากกว่าดินแดนมหัศจรรย์

a boy called christmas นักแสดง ยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นดาราอาวุโส “แม็กกี้ สมิธ” ที่น่ารักเหมือนเคย ร่วมด้วย “โจเอล ฟราย”, “มีเคิล เฮยส์มัน”, “จิม บรอดเบนต์”, “คริสเตน วิก”, “แซลลี ฮอว์กินส์” และที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ก็คือ “เฮนรี่ ลอว์ฟูล” นักแสดงเด็กหน้าใหม่ที่ถือว่ามารับบทนำในหนังใหญ่เป็นเรื่องแรก กับคาแรกเตอร์เด็กน้อยผมแดงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้ว่าฝีมือทางการแสดงของเขาจะยังไม่ได้เฉิดฉายเจิดจรัสอะไรขนาดนั้น แต่หนังเรื่องแรกของเขาก็ถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะความเก่งกาจที่ต้องเล่นคู่กับซีจีอยู่ในหลายฉาก

ในส่วนของดารานำ เฮนรี ลอว์ฟูล ผู้รับบท นิโคลัส สามารถเข้าถึงตัวตนของเด็กน้อยได้เป็นอย่างดี ตีบทแตกเรียกความน่าสงสารได้สุด ๆ ขณะที่ แซลลี่ ฮอว์กินส์ นักแสดงออสการ์จาก Shape of Water เป็นอีกคนที่ตีบทแตก ในเรื่องนี้เธอรับบท “พระแม่โวดัล” ผู้นำฝ่ายเอลฟ์ ที่ดูจะร้ายและเผด็จการ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความอึดอัดใจบางอย่าง ผู้ชมจะเกิดความสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นผู้นำเผด็จการเช่นนี้

ในที่สุด แม็กกี้ สมิธ ผู้รับบทศาสตราจารย์มักกอนนากัลในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กลับมาคราวนี้เป็นป้ารู เธอชอบคนพูดตรงไปตรงมาแต่จริงใจต่อหลานๆ ของเธอ แม้ว่าบทบาทของป้าจะดูไม่โดดเด่นหรือเด่นอะไรมากมายแต่สิ่งที่เธอแสดงกลับทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงแววตาที่อ่อนโยนของหญิงชรา จะเห็นได้ว่านางรักหลานมากและมีบทส่งท้ายที่น่ารักน่าติดตาม

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความประทับใจให้กับเราในแบบเดียวกับที่เราตื่นเต้นกับภาค 1 ของ The Chronicles of Narnia เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วิชวลของภาพยนตร์เรื่องนี้มีมนต์ขลังและแฝงไปด้วยความแฟนตาซีอย่างเหมาะสม แม้ว่าการเล่าเรื่องและเนื้อเรื่องของหนังจะค่อนข้างอ่อน แต่ก็มีประเด็นต่างๆ เนื่องจากพล็อตเรื่องแทบไม่มีน้ำหนักและตัวมันเองก็ไม่ได้มีน้ำหนักอะไรมากแต่ก็สามารถเป็นหนังที่ดูแล้วสนุกได้

โดยภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ผมก็พยายามหาข้อดีมาพูดแหละครับเพราะจริง ๆ หนังก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น “Not That bad” ผมพยายามมองในฐานะถ้าผมอายุราว ๆ 5-13 ขวบจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้หรือเปล่า ก็น่าจะชอบแหละครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมอายุมากกว่านั้นไปมากแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นหนังที่ไม่สามารถจับสมาธิผมให้อยู่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวและชวนอยากไปทำอย่างอื่นมาก ๆ

สร้างจากนิยาย เรื่องราวตำนานคริสต์มาส สนุก ตื่นเต้น

ภาพยนตร์เรื่อง เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของผู้แต่ง Matt Haig เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ปัจจุบันที่ป้ารูธต้องช่วยเลี้ยงลูกสามคนที่พลาดคริสต์มาสในปีนี้ เพราะเขากำลังโศกเศร้ากับการสูญเสียแม่ ป้ารูธจึงเล่านิทานให้พวกเขาฟังก่อนเข้านอน กาลครั้งหนึ่ง ณ กระท่อมกลางป่าฟินแลนด์ เด็กชายนิโคลัสยังถูกแม่เรียกอีกอย่างว่า “คริสต์มาส” ซึ่งเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ถูกหมีทิ้งและถูกหมีกิน มีเพียงพ่อสองคนเท่านั้นที่อาศัยอยู่

พ่อจึงต้องออกผจญภัยเพื่อค้นหาเวทมนตร์ตามคำแนะนำของพระราชา พ่อจึงรวมตัวกับเพื่อนๆ เดินทางไปยังหมู่บ้าน Elfhelm ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ผ่านไปนานพ่อไม่กลับมา นิโคลัสจึงออกตามหาระหว่างทางก็เจอเรื่องราวมากมาย เช่น ลุยหิมะ บิน ปีนหลังคา เล่นสเก็ตบอร์ด ขี่กวางเรนเดียร์ และการผจญภัยอื่นๆ ทุกการผจญภัยล้วนสนุกสนาน ตื่นเต้น และสนุกสนาน เรื่องราวมีเอกลักษณ์และแตกต่างไปจากตำนานดั้งเดิมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ดีการตัดสินในมุมของไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของภาพยนตร์ มันอาจจะไม่ค่อยแฟร์กับตัวหนังมากเสียเท่าไหร่ ก็ให้อ่านแล้วตัดสินใจกันอีกทีนะครับ สำหรับข้อมูลแก่คนที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง “A Boy Called Christmas 2021” ได้รับคะแนนค่อนข้างสูงจาก เด็ก ๆ อย่างที่บอกไป แต่สำหรับผมนั้นไม่ได้ให้คะแนนสูงเลยเรียกได้ว่าต่ำมาก ๆ ครับ ไว้เปิดให้เหมือนมีเพื่อนในช่วงคริสต์มาส ก็กำลังน่ารักดี

ข้อดีของ หนังคริสต์มาส 2021 นี้รวมทั้งบทของภาพยนตร์ ถึงแม้จะมีอะไรที่เหนือความเป็นจริงแต่มันพอเข้าใจได้เพื่อที่ให้เราในวัยเด็กได้จินตนาการพอกรุบกริบ เรื่องราวที่สอดแทรกมามีพื้นฐานอยู่บนความเป็นจริงในเรื่องของการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ในเรื่องสอนให้เราได้รู้จักการยอมรับความรู้สึกของตัวเองในเวลาที่เศร้าก็ยังบอกว่าเศร้าไม่ต้องรีบมูฟออนไปไหนในช่วงที่พูดถึงแม่ของตัวละคร ที่สอดคล้องกับเด็ก ๆ ที่ป้ารูธเล่าให้ฟังในตอนแรกที่สูญเสียแม่ไปเช่นกัน

สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือภาพที่สวยงามน่าทึ่ง คะแนนวิจารณ์ส่วนใหญ่ที่มอบให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้คือการออกแบบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์คริสต์มาสอย่างแท้จริง เพราะมันเท่ สบายๆ และน่ารัก ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนิทานก่อนนอนที่จะดูและหลับไป

แต่ถ้าคุณเลือกดูหนังเรื่องนี้แล้วอยากยอมรับจุดบกพร่องบ้าง มันไม่ใช่จุดบกพร่องจริงๆ แต่เป็นวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ถ้าใครเป็นคอหนังที่ชอบเล่าเรื่องต้องรีบเล่า คุณอาจไม่ชอบหนังเรื่องนี้ เพราะวิธีการเล่าเรื่องค่อนข้างช้าและน่าเบื่อ แต่ถ้าคุณมีลูกตัวสูงหรือเปิดให้ลูกๆ หลานๆ รวมถึงลูกที่อายุน้อยกว่าก็มักจะชอบลูกที่อายุน้อยกว่า

มีข้อคิดดีๆ มากมายในหนังเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้ฉันสะดุดใจคือตอนที่นิโคลัสพูดกับพ่อของเขาว่า “พ่อ เป็นคนดีดีกว่าเป็นคนรวย” ให้เชื่อว่า “การเชื่อนั้นดีเท่ากับการรู้” หรือ “เวลาจะเดินช้าสำหรับผู้ที่รอคอย”

• จุดเด่น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนตร์ในหลายประเทศ และ ได้รับเสียงชื่นชมจากภาพยนตร์ธีมคริสต์มาสที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม เรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตของเด็กน้อยผู้น่าสงสาร สิ้นหวังเพราะความเจ็บปวด เรื่องราวที่สื่อถึงความรักระหว่างพ่อกับลูกที่รักและสัตว์เลี้ยง เช่น หนู และบทสนทนาด้วยปรัชญาเชิงบวกต่าง ๆ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ก็ยังมีความหวังและพร้อมที่จะเผชิญกับความเป็นจริงของชีวิต และที่สำคัญ หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องความรักสำหรับทุกคน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เคยมีพฤติกรรมแย่ๆ มาก่อน ทีมผู้ผลิตสร้างฉากและมุม CG ที่สวยงามมากมายและผู้ชมสามารถมองเห็นป่าสนที่สวยงามกว้างใหญ่เมืองที่สงบสุขของมนุษย์และเอลฟ์

• จุดอ่อน

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่รุนแรงหรือน่ากลัวพอที่จะดูได้สำหรับชายและหญิงทุกวัย แต่ดูเหมือนว่าจะมีโครงเรื่องบางอย่างที่หักล้างความมืดมิด การเล่าเรื่องที่ตรงไปตรงมาจนกลายเป็นประเด็นที่ทำลายหัวใจเด็กได้ ตามสูตรสำเร็จของหนังครอบครัว ปล่อยให้ตัวเอกอย่าง “นิโคลัส” เล่าเรื่อง เดาได้ง่ายว่าเรื่องราวกำลังดำเนินไปอย่างไร และแม้ละครจะเสียน้ำตาให้กับผู้ชม แต่ก็ยังมีองค์ประกอบกราฟิกอยู่บ้าง การขาดความสมบูรณ์และความสมเหตุสมผลแทนที่จะเติมความโศกเศร้ากลายเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้ามาก